เที่ยวไหนดี? ... น่าน อุทยานแห่งชาติศรีน่าน เสาดินนาน้อยและคอกเสือ 😀
หลังจาก ได้ดู ทะเลหมอกยามรุ่งอรุณ ที่ ดอยเสมอดาวและผาหัวสิงห์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ออกเดินทางมายังจุดหมายลำดับต่อไป ซึ่งอยู่ภายในพื้นที่ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน คือ เสาดินนาน้อยและคอกเสือ ระยะทางจากดอยเสมอดาว ถึง เสาดินนาน้อย ประมาณ ๒๐ กิโลเมตร ออกจากดอยเสมอดาง ขับตามเส้นทาง ทางหลวงหมายเลข ๑๐๘๓ ไป ๑๒.๗ กิโลเมตร พบสามแยก เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงชนบทหมายเลข ๔๐๑๑ ไปเพียง ๓๕๐ เมตร (ผ่านคลองน้ำกาด) พบสี่แยก แรก ให้เลี้ยวซ้าย อีกครั้ง ตามเส้นทางไป ๕.๖ กิโลเมตร จะพบทางเข้า เสาดินนาน้อย อยู่ทางด้านซ้ายมือ จากปากทางเข้า เลี้ยวเข้าไปเพียง ๖๐ เมตร จะพบลานจอดรถ
บริเวณลานจอดรถ เป็นลานกว้าง แต่มีป้ายแจ้งเตือน ถึงการจอดรถ ไม่ควรเข้าไปจอดภายในบริเวณพื้นที่เสาดินนาน้อย เนื่องจากอาจจะส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติของพื้นที่บริเวณนี้
อุทยานแห่งชาติศรีน่านมีพื้นที่ครอบคลุมในท้องที่อำเภอนาน้อย อำเภอนาหมื่น และ อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ครอบคลุมพื้นที่ตามแนวสองฟากฝั่งลำน้ำน่าน จนไปสิ้นสุดที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ สภาพป่าภายในอุทยานฯ เป็นป่าอุดมสมบูรณ์ เทือกเขาสูงสลับซับซ้อน เรียงตัวในแนวทิศเหนือ-ใต้ เป็นป่าต้นน้ำลำธาร ที่สำคัญของแม่น้ำน่าน เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า และ มีพันธุ์ไม้นานาพรรณ ที่สำคัญหลายอย่าง ลักษณะเด่นทางธรรมชาติ ได้แก่ เสาดินและคอกเสือ ปากนาย แก่งหลวง จุดชมทิวทัศน์ดอยผาชู้ ทิวทัศน์ทั้งสองฝั่งแม่น้ำน่าน จุดชมวิวดอยเสมอดาวและผาหัวสิงห์
ในปี พ.ศ. ๒๕๓๒ ได้มีคำสั่งกรมป่าไม้วันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๒ ให้นายสมบัติ เวียงคำ เจ้าพนักงานป่าไม้ ๔ อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ปฏิบัติงานประจำอุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย ไปดำเนินการสำรวจเบื้องต้นป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำว้าและป่าห้วยสาลี่ ป่าสาลีก ป่าน้ำสา และป่าแม่สาครฝั่งซ้าย ป่าห้วยแม่ขะนิง และป่าน้ำสาฝั่งขวาตอนบน ท้องที่อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๔๓๕ ตารางกิโลเมตร หรือ ๒๗๑,๘๗๕ ไร่ และมีคำสั่งลงวันที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๒ ให้สำรวจพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มเติม เพื่อจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ และได้ใช้ชื่ออุทยานแห่งชาติแห่งนี้ตามชื่อป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำลำธารและประชาชนโดยทั่วไปรู้จักกันว่า “อุทยานแห่งชาติแม่สาคร”
ต่อมา กรมป่าไม้ได้มีคำสั่งให้ นายสมบัติ เวียงคำ ไปสำรวจเพิ่มเติมพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำสา-ป่าแม่สาครฝั่งซ้าย ป่าห้วยแม่ขนิงและป่าน้ำสาฝั่งขวาตอนบน ท้องที่อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ต่อมาอุทยานแห่งชาติแม่สาครได้มีหนังสือลงวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๓๔ ว่า เห็นสมควรได้สำรวจเพิ่มเติมจากพื้นที่เดิมคือ ป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งขวาแม่น้ำน่านตอนใต้ ป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยงวงและป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำว้าและป่าห้วยสาลี่ ท้องที่อำเภอเวียงสา อำเภอนาน้อย และอำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน เพื่อจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ
การดำเนินการสนับสนุนจัดตั้งอุทยานแห่งชาติ มีเรื่อยมาจนกระทั่ง ได้รับการแต่งตั้งเป็น อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ตามหนังสือลงวันที่ ๑๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๗ ต่อมาปี พ.ศ. ๒๕๕๐ ได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดพื้นที่เพิ่มเติม คือ บริเวณที่ดินป่าน้ำว้าและป่าห้วยสาลี่ ป่าฝั่งขวาแม่น้ำน่านตอนใต้ และป่าห้วยงวงและป่าห้วยสาลี่ ในท้องที่ตำบลขึ่ง ตำบลส้าน ตำบลน้ำมวบ อำเภอเวียงสา ตำบลศรีษะเกษ ตำบลเชียงของ ตำบลสถาน อำเภอนาน้อย และตำบลบ่อแก้ว ตำบลนาทะนุง อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๔ ตอนที่ ๒๕ ก ลงวันที่ ๒๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ จัดเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ ๑๐๔ ของประเทศ
ปัจจุบัน อุทยานแห่งชาติศรีน่าน มีเนื้อที่ประมาณ ๖๔๐,๒๓๗.๕๐ ไร่ หรือ ๑,๐๒๔.๓๘ ตารางกิโลเมตร
เสาดินนาน้อย (ฮ่อมจ๊อม) เป็นผืนดินขนาดใหญ่กว่า ๒๐ ไร่ มีลักษณะเป็นเสาดิน ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของดิน ด้วยแรงลม และน้ำตามธรรมชาติ เป็นระยะเวลายาวนาน ครอบคลุมบริเวณกว้าง ลักษณะศิลปะทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นนี้ คล้ายคลึงกับ "แพะเมืองผี" สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดแพร่ ภายในพื้นที่บริเวณกว้างจะพบเห็น ดินที่มีลักษณะเป็นหุบผา เป็นเสาดินผสมหินลูกรังสีแดงปนส้มมีการลดหลั่นเป็นชั้นๆ มีรูปทรงแตกต่างกันออกไป บ้างเป็นเสาดินกลมมน บ้างเป็นเสาแหลม บางส่วน เป็นลักษณะเหมือนม่าน และบางส่วนก็มีลักษณะคล้ายกำแพงดินขนาดใหญ่ กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นที่
ในบริเวณเสาดินมี “หญ้าเข็มนาฬิกา” ซึ่งเป็นหญ้าที่พบได้ในสถานที่แห่งนี้เท่านั้น หญ้าเข็มนาฬิกา เป็นหญ้าที่อยู่ในตระกูลเดียวกับต้นแขมและต้นอ้อ เป็นพืชท้องถิ่นที่มีชื่อเรียกหลากหลายไปตามท้องที่ ในทางภาคเหนือเรียกหญ้าพุ่งชู้ บ้างเรียกขนตาช้าง เข็มพ่อหม้าย หนวดฤาษี ส่วนทางภาคอีสานเรียกเส้นขนพันธุรัตน์ ลักษณะดอกของมัน จะเป็นเส้นแหลมเกาะกันเป็นกลุ่ม เมื่อดึงออกมาจุ่มลงในน้ำ ดอกหญ้าเหล่านี้จะหมุนในทิศทางตามเข็มนาฬิกา ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติศรีน่าน เรียกหญ้าชนิดว่า “หญ้าเข็มนาฬิกา” สามารถกระจายพันธุ์ โดยลมและฝนพัดดอกหญ้าร่วงลงพื้น เมื่อโดนน้ำดอกหญ้าแห้งที่บิดตัวอยู่จะคลายตัวออกจนหมุนเป็นวง ร่วงปักลงไปในดิน และหมุนตัวเองฝังลงไปในดินเพื่องอกขึ้นมาใหม่ นอกจากนี้ ยังมีต้นไม้โบราณที่มีอายุกว่า ๒๐๐ ปี คือ ต้นดิ๊กเดียม ที่ขึ้นอยู่ตรงทางเข้าเสาดิน
ห่างออกไปจากเสาดินประมาณ ๓๐๐ เมตร มีสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่มีความสวยงามไม่แพ้กัน คือ "คอกเสือ" ลักษณะของคอกเสือ จะเป็นแอ่งลึกลงไปจากเนินดินด้านบน ไปประมาณ ๑๐ เมตร ซึ่งแอ่งนี้เกิดจากการถูกกัดเซาะและพังทลาย ซึ่งมาจากแรงลม และน้ำตามธรรมชาติ เช่นเดียวกับเสาดิน ที่คอกเสือแห่งนี้ มีเรื่องเล่ากันว่า ในอดีตที่บริเวณนี้มี เสืออาศัยอยู่มาก เสือเหล่านี้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน โดย มักจะมากัดกิน วัว ควาย และหมู ของชาวบ้านเป็นอาหาร อยู่เป็นประจำ ชาวบ้านทั้งหลาย จึงรวมตัวกันวางอุบายไล่ต้อนเสือให้ตกลงไปในบ่อดิน แล้วใช้ไม้ปลายแหลม ก้อนหิน ขว้างปาใส่เสือจนเสียชีวิต จึงเรียกพื้นที่ในบริเวณนี้ว่า “คอกเสือ” ถึงแม้ คอกเสือ จะเป็นพื้นที่ที่มีขนาดเล็กกว่า เสาดินมาก แต่ก็มีความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ภายในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ยังคงมีสถานที่ท่องเที่ยวอีก ๒ แห่ง ที่ควรเที่ยวชม คือ
๑. ดอยผาชู้ เป็นจุดชมทะเลหมอกยามเช้าที่สวยงาม ในอันดับต้นๆ ของจังหวัดน่าน ซึ่งเป็นที่ทำการอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ ๙ ต.ศรีษะเกษ อ.นาน้อย จ.น่าน ดอยผาชู้ มีตำนานเล่าขานกันมาว่า เจ้าเอื้องผึ้ง ซึ่งเป็นคู่รักกับ เจ้าจันทน์ผา จำใจต้องแต่งงานกับเจ้าจ๋วง แต่เจ้าเอื้องผึ้งเสียใจที่ไม่ได้แต่งงานกับคนที่ตนเองรัก จึงตัดสินใจกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตาย ครั้น เจ้าจันทน์ผา ตามมา ก็ทราบว่าเจ้าเอื้องผึ้งได้กระโดดหน้าผา จึงกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตายตามคนรักไป และเสียชีวิตในบริเวณใกล้กัน เมื่อเจ้าจ๋วงได้เห็นหญิงที่ตนรักกระโดดหน้าผา จึงเสียใจและตัดสินใจกระโดดหน้าผา ตามลงไป แต่ร่างของเจ้าจ๋วง กระเด็นห่างออกไป ด้วยความรักแท้ระหว่าง เจ้าเอื้องผึ้งและเจ้าจันทน์ผา ในชาติต่อมาเจ้าเอื้องผึ้งจึงเกิดเป็นดอกกล้วยไม้เกาะ อยู่ใต้ต้นจันทน์ผา ส่วนเจ้าจ๋วงก็เกิดเป็นต้นสน ณ จุดที่ตกไปนั้นเอง (คำว่า “จ๋วง” เป็นภาษาเหนือ แปลว่า ต้นสน ส่วน “เอื้องผึ้ง” แปลว่ากล้วยไม้) หน้าผาแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า “ผาชู้” นับแต่นั้นเป็นต้นมา
ช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวนิยม มาคือ ในช่วงฤดูหนาว จุดเด่นของผาชู้ คือ ทะเลหมอกยามรุ่งอรุณ หากช่วงที่ทะลหมอกจางลง ก็จะเห็นสายน้ำของแม่น้ำน่าน ทอดยาวคดเคี้ยวอยู่ในผืนป่า สำหรับการชมทะเลหมอก ต้องเดินทางขึ้นผาชู้ ก่อนพระอาทิตย์ โดยมีระยะทาง ๒ กิโลเมตร ใช้เวลาเดินราว ๑ ชั่วโมง ซึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ประสงค์จะเดินทางในลักษณะนี้ ควรเตรียมตัวใส่รองเท้าที่เหมาะสมในการเดินป่า ซึ่งต้องเหยียบบนโขดหิน และการขึ้นบนผาชู้ นั้น ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางทุกครั้ง บนดอยผาชู้ เป็นสถานที่ตั้งสายธงชาติที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ยาวประมาณ ๒๐๐ เมตร
๒. ปากนาย ตั้งอยู่หมู่ที่ ๑๗ ในพื้นที่ตำบลนาทะนุง อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน ห่างจากตัวอำเภอ ๒๗ กิโลเมตร ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่ดอยเสมอดาวและผาหัวสิงห์ ๖๗ กิโลเมตร ปากนาย เกิดจาก ป่าที่ถูกน้ำเหนือเขื่อนสิริกิติ์ ท่วมถึง จึงทำให้พื้นที่บริเวณนี้เป็นแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัดน่าน มีสภาพป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ และทิวทัศน์สวยงาม โดยมีบริการท่องเที่ยวในรูปแบบ นั่งเรือชมธรรมชาติ หรือ พักผ่อนบนเรือนแพของชาวประมง
๓. แก่งหลวงแม่น้ำน่าน ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ๑๔ กิโลเมตร ตั้งอยู่ติดถนนสายนาน้อย-ปางไฮ (ทางหลวงหมายเลข ๑๐๘๓) เป็นสถานที่จุดชมทิวทัศน์ สามารถล่องเรือ ล่องแพ ชมธรรมชาติสองฝั่งแม่น้ำ ที่เห็นทิวทัศน์ เกาะแก่ง โขดหิน หาดทราย ที่ได้ร้อยเรียงเป็นลำนำอันงดงามจากธรรมชาติ นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำในบริเวณแก่งหลวงได้ในช่วงหน้าแล้ง ในเดือนเมษายนเท่านั้น โดยจุดเด่นในบริเวณแก่งหลวง คือ ผาง่าม หน้าผาขนาดใหญ่ ตั้งโดดเด่นอยู่กลางป่าเขาที่เขียวขจี ผาขวาง หน้าผาขนาดใหญ่ ตั้งขวางอยู่กลางแม่น้ำน่าน มีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์
สำหรับค่าธรรมเนียม ในการเข้าอุทยานแห่งชาติศรีน่าน มีดังนี้ ค่าธรรมเนียมชาวไทย ผู้ใหญ่ ๒๐ บาท เด็ก ๑๐ บาท สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ ๑๐๐ บาท เด็ก ๕๐ บาท ผู้ที่นำยานพาหนะเข้าอุทยานฯ เสียค่าธรรมเนียม จักรยาน ๑๐ บาท จักรยานยนต์ ๒๐ บาท และ รถยนต์ส่วนบุคคล ๓๐ บาท
บริเวณลานจอดรถ เป็นลานกว้าง แต่มีป้ายแจ้งเตือน ถึงการจอดรถ ไม่ควรเข้าไปจอดภายในบริเวณพื้นที่เสาดินนาน้อย เนื่องจากอาจจะส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติของพื้นที่บริเวณนี้
![]() |
ป้านทางเข้า เสาดินนาน้อย |
อุทยานแห่งชาติศรีน่านมีพื้นที่ครอบคลุมในท้องที่อำเภอนาน้อย อำเภอนาหมื่น และ อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ครอบคลุมพื้นที่ตามแนวสองฟากฝั่งลำน้ำน่าน จนไปสิ้นสุดที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ สภาพป่าภายในอุทยานฯ เป็นป่าอุดมสมบูรณ์ เทือกเขาสูงสลับซับซ้อน เรียงตัวในแนวทิศเหนือ-ใต้ เป็นป่าต้นน้ำลำธาร ที่สำคัญของแม่น้ำน่าน เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า และ มีพันธุ์ไม้นานาพรรณ ที่สำคัญหลายอย่าง ลักษณะเด่นทางธรรมชาติ ได้แก่ เสาดินและคอกเสือ ปากนาย แก่งหลวง จุดชมทิวทัศน์ดอยผาชู้ ทิวทัศน์ทั้งสองฝั่งแม่น้ำน่าน จุดชมวิวดอยเสมอดาวและผาหัวสิงห์
ในปี พ.ศ. ๒๕๓๒ ได้มีคำสั่งกรมป่าไม้วันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๒ ให้นายสมบัติ เวียงคำ เจ้าพนักงานป่าไม้ ๔ อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ปฏิบัติงานประจำอุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย ไปดำเนินการสำรวจเบื้องต้นป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำว้าและป่าห้วยสาลี่ ป่าสาลีก ป่าน้ำสา และป่าแม่สาครฝั่งซ้าย ป่าห้วยแม่ขะนิง และป่าน้ำสาฝั่งขวาตอนบน ท้องที่อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๔๓๕ ตารางกิโลเมตร หรือ ๒๗๑,๘๗๕ ไร่ และมีคำสั่งลงวันที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๒ ให้สำรวจพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มเติม เพื่อจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ และได้ใช้ชื่ออุทยานแห่งชาติแห่งนี้ตามชื่อป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำลำธารและประชาชนโดยทั่วไปรู้จักกันว่า “อุทยานแห่งชาติแม่สาคร”
ต่อมา กรมป่าไม้ได้มีคำสั่งให้ นายสมบัติ เวียงคำ ไปสำรวจเพิ่มเติมพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำสา-ป่าแม่สาครฝั่งซ้าย ป่าห้วยแม่ขนิงและป่าน้ำสาฝั่งขวาตอนบน ท้องที่อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ต่อมาอุทยานแห่งชาติแม่สาครได้มีหนังสือลงวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๓๔ ว่า เห็นสมควรได้สำรวจเพิ่มเติมจากพื้นที่เดิมคือ ป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งขวาแม่น้ำน่านตอนใต้ ป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยงวงและป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำว้าและป่าห้วยสาลี่ ท้องที่อำเภอเวียงสา อำเภอนาน้อย และอำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน เพื่อจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ
การดำเนินการสนับสนุนจัดตั้งอุทยานแห่งชาติ มีเรื่อยมาจนกระทั่ง ได้รับการแต่งตั้งเป็น อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ตามหนังสือลงวันที่ ๑๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๗ ต่อมาปี พ.ศ. ๒๕๕๐ ได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดพื้นที่เพิ่มเติม คือ บริเวณที่ดินป่าน้ำว้าและป่าห้วยสาลี่ ป่าฝั่งขวาแม่น้ำน่านตอนใต้ และป่าห้วยงวงและป่าห้วยสาลี่ ในท้องที่ตำบลขึ่ง ตำบลส้าน ตำบลน้ำมวบ อำเภอเวียงสา ตำบลศรีษะเกษ ตำบลเชียงของ ตำบลสถาน อำเภอนาน้อย และตำบลบ่อแก้ว ตำบลนาทะนุง อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๔ ตอนที่ ๒๕ ก ลงวันที่ ๒๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ จัดเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ ๑๐๔ ของประเทศ
ปัจจุบัน อุทยานแห่งชาติศรีน่าน มีเนื้อที่ประมาณ ๖๔๐,๒๓๗.๕๐ ไร่ หรือ ๑,๐๒๔.๓๘ ตารางกิโลเมตร
เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน จึงทำให้มีพีชพรรณป่าไม้ อยู่ ๒ ประเภทคือ
ป่าไม่ผลัดใบ ได้แก่ ป่าดิบแล้ง ป่าดิบเขา ป่าสนเขา พันธุ์ไม้ที่พบคือ กระบาก ตะเคียน ยาง ประดู่ มะค่าโมง ยมหอม ตะแบก ชิงชัน เหียง พลวงตะเคียนหนู พวกไม้ก่อต่างๆ พลับพลา หมีเหม็น สนสองใบ สนสามใบ เป็นต้น
สำหรับ สัตว์ป่าที่พบ จะมี สัตว์เลื้อยคลานชนิดต่างๆ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ซึ่งสามารถพบตามแหล่งน้ำธรรมชาติ กระรอก กระแต กระต่ายป่า ชะนี ลิงลม หมาไน หมาจิ้งจอก หมาจิ้งจอก อีเห็น หมูป่า กระจง วัวแดง กวางป่า กระทิง หมี เสือโคร่ง เสือดาว เสือป่า นกยูงไทยและนกนานาพรรณ
ป่าผลัดใบ ได้แก่ ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง พันธุ์ไม้ที่พบคือ สัก แดง ประดู่ ชิงชัน ขะเจ๊าะ สาธร มะค่าโมง ตะแบก ตีนนก โมกหลวง เต็ง รัง เหียง พลวง ตะคร้อ มะม่วงป่า กว้าว รกฟ้า มะกอก ไผ่ชนิดต่างๆ เป็นต้น
ป่าไม่ผลัดใบ ได้แก่ ป่าดิบแล้ง ป่าดิบเขา ป่าสนเขา พันธุ์ไม้ที่พบคือ กระบาก ตะเคียน ยาง ประดู่ มะค่าโมง ยมหอม ตะแบก ชิงชัน เหียง พลวงตะเคียนหนู พวกไม้ก่อต่างๆ พลับพลา หมีเหม็น สนสองใบ สนสามใบ เป็นต้น
สำหรับ สัตว์ป่าที่พบ จะมี สัตว์เลื้อยคลานชนิดต่างๆ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ซึ่งสามารถพบตามแหล่งน้ำธรรมชาติ กระรอก กระแต กระต่ายป่า ชะนี ลิงลม หมาไน หมาจิ้งจอก หมาจิ้งจอก อีเห็น หมูป่า กระจง วัวแดง กวางป่า กระทิง หมี เสือโคร่ง เสือดาว เสือป่า นกยูงไทยและนกนานาพรรณ
![]() |
เสาดินนาน้อย |
เสาดินนาน้อย (ฮ่อมจ๊อม) เป็นผืนดินขนาดใหญ่กว่า ๒๐ ไร่ มีลักษณะเป็นเสาดิน ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของดิน ด้วยแรงลม และน้ำตามธรรมชาติ เป็นระยะเวลายาวนาน ครอบคลุมบริเวณกว้าง ลักษณะศิลปะทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นนี้ คล้ายคลึงกับ "แพะเมืองผี" สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดแพร่ ภายในพื้นที่บริเวณกว้างจะพบเห็น ดินที่มีลักษณะเป็นหุบผา เป็นเสาดินผสมหินลูกรังสีแดงปนส้มมีการลดหลั่นเป็นชั้นๆ มีรูปทรงแตกต่างกันออกไป บ้างเป็นเสาดินกลมมน บ้างเป็นเสาแหลม บางส่วน เป็นลักษณะเหมือนม่าน และบางส่วนก็มีลักษณะคล้ายกำแพงดินขนาดใหญ่ กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นที่
![]() |
ลักษณะ เสาดิน |
ในบริเวณเสาดินมี “หญ้าเข็มนาฬิกา” ซึ่งเป็นหญ้าที่พบได้ในสถานที่แห่งนี้เท่านั้น หญ้าเข็มนาฬิกา เป็นหญ้าที่อยู่ในตระกูลเดียวกับต้นแขมและต้นอ้อ เป็นพืชท้องถิ่นที่มีชื่อเรียกหลากหลายไปตามท้องที่ ในทางภาคเหนือเรียกหญ้าพุ่งชู้ บ้างเรียกขนตาช้าง เข็มพ่อหม้าย หนวดฤาษี ส่วนทางภาคอีสานเรียกเส้นขนพันธุรัตน์ ลักษณะดอกของมัน จะเป็นเส้นแหลมเกาะกันเป็นกลุ่ม เมื่อดึงออกมาจุ่มลงในน้ำ ดอกหญ้าเหล่านี้จะหมุนในทิศทางตามเข็มนาฬิกา ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติศรีน่าน เรียกหญ้าชนิดว่า “หญ้าเข็มนาฬิกา” สามารถกระจายพันธุ์ โดยลมและฝนพัดดอกหญ้าร่วงลงพื้น เมื่อโดนน้ำดอกหญ้าแห้งที่บิดตัวอยู่จะคลายตัวออกจนหมุนเป็นวง ร่วงปักลงไปในดิน และหมุนตัวเองฝังลงไปในดินเพื่องอกขึ้นมาใหม่ นอกจากนี้ ยังมีต้นไม้โบราณที่มีอายุกว่า ๒๐๐ ปี คือ ต้นดิ๊กเดียม ที่ขึ้นอยู่ตรงทางเข้าเสาดิน
ห่างออกไปจากเสาดินประมาณ ๓๐๐ เมตร มีสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่มีความสวยงามไม่แพ้กัน คือ "คอกเสือ" ลักษณะของคอกเสือ จะเป็นแอ่งลึกลงไปจากเนินดินด้านบน ไปประมาณ ๑๐ เมตร ซึ่งแอ่งนี้เกิดจากการถูกกัดเซาะและพังทลาย ซึ่งมาจากแรงลม และน้ำตามธรรมชาติ เช่นเดียวกับเสาดิน ที่คอกเสือแห่งนี้ มีเรื่องเล่ากันว่า ในอดีตที่บริเวณนี้มี เสืออาศัยอยู่มาก เสือเหล่านี้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน โดย มักจะมากัดกิน วัว ควาย และหมู ของชาวบ้านเป็นอาหาร อยู่เป็นประจำ ชาวบ้านทั้งหลาย จึงรวมตัวกันวางอุบายไล่ต้อนเสือให้ตกลงไปในบ่อดิน แล้วใช้ไม้ปลายแหลม ก้อนหิน ขว้างปาใส่เสือจนเสียชีวิต จึงเรียกพื้นที่ในบริเวณนี้ว่า “คอกเสือ” ถึงแม้ คอกเสือ จะเป็นพื้นที่ที่มีขนาดเล็กกว่า เสาดินมาก แต่ก็มีความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
![]() |
เสาดินนาน้อย |
ภายในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ยังคงมีสถานที่ท่องเที่ยวอีก ๒ แห่ง ที่ควรเที่ยวชม คือ
๑. ดอยผาชู้ เป็นจุดชมทะเลหมอกยามเช้าที่สวยงาม ในอันดับต้นๆ ของจังหวัดน่าน ซึ่งเป็นที่ทำการอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ ๙ ต.ศรีษะเกษ อ.นาน้อย จ.น่าน ดอยผาชู้ มีตำนานเล่าขานกันมาว่า เจ้าเอื้องผึ้ง ซึ่งเป็นคู่รักกับ เจ้าจันทน์ผา จำใจต้องแต่งงานกับเจ้าจ๋วง แต่เจ้าเอื้องผึ้งเสียใจที่ไม่ได้แต่งงานกับคนที่ตนเองรัก จึงตัดสินใจกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตาย ครั้น เจ้าจันทน์ผา ตามมา ก็ทราบว่าเจ้าเอื้องผึ้งได้กระโดดหน้าผา จึงกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตายตามคนรักไป และเสียชีวิตในบริเวณใกล้กัน เมื่อเจ้าจ๋วงได้เห็นหญิงที่ตนรักกระโดดหน้าผา จึงเสียใจและตัดสินใจกระโดดหน้าผา ตามลงไป แต่ร่างของเจ้าจ๋วง กระเด็นห่างออกไป ด้วยความรักแท้ระหว่าง เจ้าเอื้องผึ้งและเจ้าจันทน์ผา ในชาติต่อมาเจ้าเอื้องผึ้งจึงเกิดเป็นดอกกล้วยไม้เกาะ อยู่ใต้ต้นจันทน์ผา ส่วนเจ้าจ๋วงก็เกิดเป็นต้นสน ณ จุดที่ตกไปนั้นเอง (คำว่า “จ๋วง” เป็นภาษาเหนือ แปลว่า ต้นสน ส่วน “เอื้องผึ้ง” แปลว่ากล้วยไม้) หน้าผาแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า “ผาชู้” นับแต่นั้นเป็นต้นมา
ช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวนิยม มาคือ ในช่วงฤดูหนาว จุดเด่นของผาชู้ คือ ทะเลหมอกยามรุ่งอรุณ หากช่วงที่ทะลหมอกจางลง ก็จะเห็นสายน้ำของแม่น้ำน่าน ทอดยาวคดเคี้ยวอยู่ในผืนป่า สำหรับการชมทะเลหมอก ต้องเดินทางขึ้นผาชู้ ก่อนพระอาทิตย์ โดยมีระยะทาง ๒ กิโลเมตร ใช้เวลาเดินราว ๑ ชั่วโมง ซึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ประสงค์จะเดินทางในลักษณะนี้ ควรเตรียมตัวใส่รองเท้าที่เหมาะสมในการเดินป่า ซึ่งต้องเหยียบบนโขดหิน และการขึ้นบนผาชู้ นั้น ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางทุกครั้ง บนดอยผาชู้ เป็นสถานที่ตั้งสายธงชาติที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ยาวประมาณ ๒๐๐ เมตร
๒. ปากนาย ตั้งอยู่หมู่ที่ ๑๗ ในพื้นที่ตำบลนาทะนุง อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน ห่างจากตัวอำเภอ ๒๗ กิโลเมตร ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่ดอยเสมอดาวและผาหัวสิงห์ ๖๗ กิโลเมตร ปากนาย เกิดจาก ป่าที่ถูกน้ำเหนือเขื่อนสิริกิติ์ ท่วมถึง จึงทำให้พื้นที่บริเวณนี้เป็นแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัดน่าน มีสภาพป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ และทิวทัศน์สวยงาม โดยมีบริการท่องเที่ยวในรูปแบบ นั่งเรือชมธรรมชาติ หรือ พักผ่อนบนเรือนแพของชาวประมง
๓. แก่งหลวงแม่น้ำน่าน ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ๑๔ กิโลเมตร ตั้งอยู่ติดถนนสายนาน้อย-ปางไฮ (ทางหลวงหมายเลข ๑๐๘๓) เป็นสถานที่จุดชมทิวทัศน์ สามารถล่องเรือ ล่องแพ ชมธรรมชาติสองฝั่งแม่น้ำ ที่เห็นทิวทัศน์ เกาะแก่ง โขดหิน หาดทราย ที่ได้ร้อยเรียงเป็นลำนำอันงดงามจากธรรมชาติ นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำในบริเวณแก่งหลวงได้ในช่วงหน้าแล้ง ในเดือนเมษายนเท่านั้น โดยจุดเด่นในบริเวณแก่งหลวง คือ ผาง่าม หน้าผาขนาดใหญ่ ตั้งโดดเด่นอยู่กลางป่าเขาที่เขียวขจี ผาขวาง หน้าผาขนาดใหญ่ ตั้งขวางอยู่กลางแม่น้ำน่าน มีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์
สำหรับค่าธรรมเนียม ในการเข้าอุทยานแห่งชาติศรีน่าน มีดังนี้ ค่าธรรมเนียมชาวไทย ผู้ใหญ่ ๒๐ บาท เด็ก ๑๐ บาท สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ ๑๐๐ บาท เด็ก ๕๐ บาท ผู้ที่นำยานพาหนะเข้าอุทยานฯ เสียค่าธรรมเนียม จักรยาน ๑๐ บาท จักรยานยนต์ ๒๐ บาท และ รถยนต์ส่วนบุคคล ๓๐ บาท
พิกัด GPS เสาดินนาน้อย : 18.303179, 100.752177
พิกัด GPS คอกเสือ : 18.302795, 100.750680
แผนที่ เสาดินนาน้อย
แวะชม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ตั้งใจจะเดินทางกลับไปยังที่พัก โรงแรมสบายน่าน แต่เมื่อออกมาจากเสาดินนาน้อย ก็พบว่า เยื้องๆ กัน มี วัดพระธาตุเชียงของ ตั้งอยู่ จึงแวะเข้าไปสักการะสักหน่อย
ขอบคุณ ครับ 😄
สำหรับท่านที่ สนใจจะจองที่พักในจังหวัดน่าน สามารถกดดูรายละเอียดที่ ลิงค์นี้ หรือ ลิงค์นี้ ก็ได้ ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น