เที่ยวไหนดี? ... ไหว้พระ ภูเก็ต วัดสีลสุภาราม(วัดหลวงปู่สุภา) 😀
วัดสีลสุภาราม (วัดหลวงปู่สุภา) เป็นวัดที่อยู่ไม่ห่างจากวัดฉลอง หรือ วัดไชยธาราราม ซึ่งเป็นวัดที่ประชาขนชาวภูเก็ตและชาวไทยเคารพอย่างยิ่ง โดยศรัทธาเลื่อมใส ในความศักดิ์สิทธิ์ และคุณความดี ของ หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง ซึ่งท่านเป็นที่พึ่งทางใจ ให้กับชาวบ้าน ในการต่อสู้ชนะกับกบฎอั้งยี่ (ชาวจีนที่ก่อการกบฏ ปล้นสะดมชาวบ้าน ในปี พ.ศ. ๒๔๑๙) รวมถึงหลวงพ่อช่วง และหลวงพ่อเกลื้อม แห่งวัดฉลอง
สำหรับวัดสีลสุภาราม (วัดหลวงปู่สุภา) เป็นวัดสุดท้าย ที่หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล สร้าง หลวงปู่สุภา มรณภาพเมื่อวันที่ ๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๖ ที่ สิริอายุ ๑๑๙ ปี หลวงปู่สุภาเป็นคน อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร เกิดเมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน พ.ศ. ๒๔๓๘ เริ่มบวชเณรเมื่ออายุ ๙ ขวบ เป็นศิษย์ของพระอาจารย์สีทัตต์ วัดท่าอุเทน จ.นครพนม ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๖๓ ท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท ภายหลังได้มีการไปศึกษาทางด้านกษิณ และฌานสมาบัติอยู่กับพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต แล้วจึงออกธุดงค์ไปในทุกภาคของประเทศ รวมไปถึงประเทศใกล้เคียง
ราวปี พ.ศ. ๒๕๐๐ หลวงปู่สุภา ได้ธุงค์ลงมาที่ภาคใต้ ก่อนจะมา จังหวัดภูเก็ต หลวงปู่ได้นิมิตเห็นเทวดาองค์หนึ่งบอกให้ท่านมาช่วยโปรดคนกลุ่มน้อยในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตให้พ้นทุกข์ การมาถึงครั้งนั้น ท่านมาปักกลดอยู่บนเขารัง อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยมีความตั้งใจที่จะสร้างวัดที่บริเวณเขารัง แต่เนื่องจากทางเจ้าของที่ดินไม่ขายที่ดินให้ ท่านตั้งใจถอนกลดเพื่อธุดงค์ต่อไป ในคืนก่อนที่หลวงปู่สุภาถอนกลดนั้น หลวงปู่สุภาเกิดนิมิตว่า มีพระภิกษุชราภาพรูปหนึ่งมาปรากฏร่างที่ข้างกลดธุดงค์ ท่านจึงออกไปพบ พระภิกษุชรารูปนั้นก็ได้บอกหลวงปู่สุภาว่า “อย่าได้เสียใจเลย ยังมีสถานที่ที่เขาต้องการให้ท่านไปสร้างวัด ชาวบ้านเขารอกันเป็นเวลานาน แต่ไม่มีใครไปสร้างให้ ขอข้ามทะเลไปยังเกาะสิเหร่ ที่นั่นคือที่ที่ท่านจะสมปรารถนา”
จากนั้น หลวงปู่สุภา ลงเรือที่ทางญาติโยมจัดให้ เดินทางมายังเกาะสิเหร่ แล้วปักกลด แสวงหาวิเวกบนเกาะสิเหร่ จนมาพบที่ดินที่ถูกใจแปลงหนึ่ง โดยมีความตั้งใจสร้างสำนักวิปัสสนา ที่เขาเกาะสิเหร่ จึงสอบถามหาเจ้าของที่ ปรากฏว่า เจ้าของที่คือ แป๊ะหลี มีความเลื่อมใสในวัตรปฏิบัติของหลวงปู่สุภา จึงปวารณาตัวอุทิศที่ให้สร้างเป็นวัดขึ้นเป็นวัดแรกของเกาะ เรียกว่า “วัดเกาะสิเหร่” เป็นวัดลำดับที่ ๓๔ ของหลวงปู่
ในปี พ.ศ. ๒๕๐๓ จึงเริ่มมีการก่อสร้าง "วัดเขาเกาะสิเหร่" ขึ้น โดยมีหลวงพ่อสุภา กนฺตสีโล เป็นผู้ดำเนินงาน และการสนับสนุนของญาติโยม ผู้มีจิตศรัทธา การก่อสร้างเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ล่วงเลยมา ๖ ปี อาคารที่ใช้ประกอบศาสนกิจต่างๆ ก็แล้วเสร็จ เหมาะแก่การปฎิบัติธรรม ชาวภูเก็ตมักเรียก "เกาะสิเหร่" ว่า "เขาหมอน" หลวงปู่สุภา จึงปรารภกับ คุณสวัสดิ์ อุทัยศรี ศุลกากรเขตภูเก็ต (ขณะนั้น) ว่าจะสร้างพระพุทธรูปปางไสยาสน์ (พระนอน) โดยสร้างถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ญาติโยมทั้งหลายต่างอนุโมทนา ร่วมจัดสร้าง ในปี พ.ศ. ๒๕๐๔ จนแล้วเสร็จ ความยาวตลอดองค์ ๑๘.๕ เมตร ประดิษฐาน ณ ยอดเขา เกาะสิเหร่ นับเป็นปูชนียวัตถุที่สำคัญแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต
เมื่อสร้างองค์พระแล้วเสร็จ หลวงปู่สุภา ได้ทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานแววพระเนตรสำหรับองค์พระ จากในหลวงรัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้ตามคำกราบบังคมทูลขอ
ขณะนั้น ที่องค์พระ มีเพียงโรงไม้หลังคาสังกะสีใช้เป็นที่บังแดด บังฝน ชั่วคราว หลวงปู่มีความประสงค์จะสร้างพระวิหารถาวร เพื่อให้สมพระเกียรติกับพระพุทธรูปองค์นี้ ซึ่งต้องใช้ทุนทรัพย์มาก ท่านจึงออกเดินทางมากรุงเทพฯ เพื่อพบอาจารย์ชุม ไชยคีรี (ผู้เชี่ยวชาญในการสร้างพระ) หลังจากนั้น หลวงปู่ จึงสร้าง "พระเสด็จกลับ" พระเครื่องแบบพระผงผสมว่าน ไว้สำหรับแจกให้กับศิษยานุศิษย์ เพื่อสร้างพระวิหาร
ขณะนั้น ที่องค์พระ มีเพียงโรงไม้หลังคาสังกะสีใช้เป็นที่บังแดด บังฝน ชั่วคราว หลวงปู่มีความประสงค์จะสร้างพระวิหารถาวร เพื่อให้สมพระเกียรติกับพระพุทธรูปองค์นี้ ซึ่งต้องใช้ทุนทรัพย์มาก ท่านจึงออกเดินทางมากรุงเทพฯ เพื่อพบอาจารย์ชุม ไชยคีรี (ผู้เชี่ยวชาญในการสร้างพระ) หลังจากนั้น หลวงปู่ จึงสร้าง "พระเสด็จกลับ" พระเครื่องแบบพระผงผสมว่าน ไว้สำหรับแจกให้กับศิษยานุศิษย์ เพื่อสร้างพระวิหาร
หล้งจากสร้างวัดเกาะสิเหร่ หลวงปู่สุภา ก็ออกธุดงค์ เดินทางไปยังภาคอื่นๆ แล้วกลับมา ที่ภูเก็ตอีกครั้ง โดยมาปักกลด ที่เขารัง อยู่บริเวณด้านหลังโรงพยาบาลวชิระ เหล่าศิษยานุศิษย์ เห็นพ้องกันว่า หลวงปู่สุภามีอายุมากแล้ว (ขณะนั้นท่านอายุ ๘๔ ปี) อยากให้ท่านพำนักที่นี่ จึงมีการติดต่อซื้อที่ดิน ซึ่งเจ้าของที่ดินบนเขารังขายให้ ๑ ไร่เศษ จึงจัดตั้งเป็นสำนักสงฆ์ (ตาม พ.ร.บ. การปกครอง
คณะสงฆ์ระบุ ไว้ วัดต้องมีเนื้อที่ไม่ต่ำกว่า ๖ ไร่) ชื่อ "สำนักสงฆ์เทพขจรจิตร" ตามชื่อ ของเจ้าของที่ดินเดิม คือ หมื่นขจรจิตรพงษ์ประดิษฐ์ หลวงปู่สุภา เล็งเห็นว่า เพื่อสร้างความสงบให้แก่เขารังและภูเก็ต ควรสร้างพระพุทธรูปปางประทานพร ไว้บนยอดเขารัง โดยมีการออกแบบให้หลังคาสำนักสงฆ์
เป็นฐานขององค์พระ ซึ่งญาติโยมและศิษยานุศิษย์ ต่างอนุโมทนา ร่วมกันสร้างพระพุทธรูปนั่ง ปางประทานพระ แล้วเสร็จ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปนั่ง ปางประทานพร ที่ใหญ่ที่สุดในเกาะภูเก็ต (ขณะนั้น) สามารถมองเห็นได้แต่ไกล
ต่อมา สำนักสงฆ์แห่งนี้ ได้รับประกาศแต่งตั้งให้เป็นวัดในพระพุทธศาสนา เมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๗ ใช้ชื่อว่า “วัดเขารังสามัคคีธรรม” และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๒ ซึ่งเป็นวัดลำดับที่ ๓๘ ที่หลวงปู่สุภาสร้าง
เป็นฐานขององค์พระ ซึ่งญาติโยมและศิษยานุศิษย์ ต่างอนุโมทนา ร่วมกันสร้างพระพุทธรูปนั่ง ปางประทานพระ แล้วเสร็จ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปนั่ง ปางประทานพร ที่ใหญ่ที่สุดในเกาะภูเก็ต (ขณะนั้น) สามารถมองเห็นได้แต่ไกล
ต่อมา สำนักสงฆ์แห่งนี้ ได้รับประกาศแต่งตั้งให้เป็นวัดในพระพุทธศาสนา เมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๗ ใช้ชื่อว่า “วัดเขารังสามัคคีธรรม” และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๒ ซึ่งเป็นวัดลำดับที่ ๓๘ ที่หลวงปู่สุภาสร้าง
![]() |
โบสถ์กลางน้ำ วัดสีลสุภาราม ภูเก็ต |
หลวงปู่สุภา ท่านได้อยู่ที่วัดแห่งนี้เรื่อยมาโดยตลอด จนกระทั่ง เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๕๕ ท่านก็ได้ย้ายไปอยู่ที่วัดคอนสวรรค์ จ.สกลนคร ซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิดของท่าน
![]() |
โบสถ์กลางน้ำ วัดสีลสุภาราม ภูเก็ต |
นอกจากการสร้างวัด ที่ภูเก็ต แล้ว หลวงปู่สุภา ท่านยังได้สร้างตึกสงฆ์ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และได้มีการมอบทุนการศึกษาให้แก่เด็กนักเรียนเป็นประจำทุกปี
พิกัด GPS วัดสีลสุภาราม(วัดหลวงปู่สุภา) : 7.854266, 98.328886
แผนที่ วัดสีลสุภาราม(วัดหลวงปู่สุภา) :
สำหรับการเดินทางมาวัดสีลสุภาราม(วัดหลวงปู่สุภา) ถ้าเริ่มจากสะพานท้าวเทพกระษัตรี (ข้างสะพานสารสิน) (สะพานข้ามทะเลเข้าสู่อำเภอภูเก็ต) ใช้ถนนเทพกระษัตรี (ทางหลวงหมายเลข ๔๐๒) มาประมาณ ๓๔.๕ กิโลเมตร ถึงสามแยก บางคู เลี้ยวขวาเข้าถนนเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ ๙ ตามเรื่อยมาจะเข้าสู่ถนนเจ้าฟ้าตะวันตก ระยะทางรวม ประมาณ ๑๔ กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวา เข้าสู่ ถนนเจ้าฟ้า ๖๙ เข้าไปอีก ๙๐๐ เมตร ก็จะถึงวัดสีลสุภาราม ครับ
ขอบคุณ ครับ 😄
สำหรับท่านที่ สนใจจะจองที่พักใน จังหวัดภูเก็ต สามารถกดดูรายละเอียดที่ ลิงค์นี้ หรือ ลิงค์นี้ ก็ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น