เที่ยวไหนดี? ... ไหว้พระ ๙ วัด อุบลราชธานี วัดที่ ๔ วัดศรีอุบลรัตนาราม

เที่ยวไหนดี? ...  ไหว้พระ ๙ วัด  อุบลราชธานี  วัดที่ ๔ วัดศรีอุบลรัตนาราม 😀

มาถึงวัดที่ ๔  ซึ่งก่อนหน้านี้ เราไปเที่ยว วัดต่างๆ ตามลำดับ ดังนี้ วัดหนองป่าพง  และ  วัดพระธาตุหนองบัว   วัดลำดับที่ ๓ คือ วัดสระประสานสุข  สำหรับวัดแห่งนี้ คือ วัดศรีอุบลรัตนาราม อยู่ห่างจากวัดสระประสานสุข ประมาณ ๘ กิโลเมตร และยังอยู่ในอำเภอเมืองอุบลราชธานี

ด้านข้างโบสถ์
วัดศรีอุบลรัตนาราม เป็นวัดอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ มีพระคู่บ้านคู่เมือง จังหวัดอุบลราชธานี คือ  พระแก้วบุษราคัม  เป็นพระพุทธรูปอัญมณี (ปางมารวิชัย รูปแบบศิลปะล้านช้าง) ซึ่งอยู่ในตระกูลมณีนพเก้า   ดั่ง คำกลอนโบราณ ที่ได้กล่าวไว้ คือ "เพชรดีมณีแดง เขียวแสงใสมรกต เหลืองใสสดบุษราคัม แดงแก่ก่ำโกเมนเอก สีหมอกเมฆนิลกาฬ มุกดาหารหมอกมัว แดงสลัวเพทาย สังวาลย์สายไพฑูรย์"  ซึ่งมณีนพเก้าตามโบราณกาล  มีระบุว่า แต่ละชนิดของอัญมณี มีความเป็นสิริมงคลแตกต่างกัน ดังนี้

๑. เพชร ส่งเสริมให้เป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ มีชัยแก่ศัตรู ร่ำรวย,
๒. ทับทิม (มณี)  มีความเป็นสิริมงคลคือ ความสำเร็จ ลาภยศ อายุยืน
๓. มรกต นำมาซึ่ง ความศรัทธา กล้าหาญ ป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง
๔. บุษราคัม ส่งเสริมให้ มีเสน่ห์เป็นที่รัก
๕. โกเมน นำมาซึ่ง สุขภาพดี อายุยืนนาน
๖. ไพลิน (นิลกาฬ )  เป็นมงคลทางด้าน ความรัก ความเมตตากรุณา ความร่ำรวย
๗. มุกดาหาร สิริมงคลอันอุดมด้วย ความบริสุทธิ์ ร่มเย็น และชนะแก่ศัตรู
๘.  เพทาย ส่งเสริมให้มี ความร่ำรวย ชนะคดีความ
๙. ไพฑูรย์  มีความเป็นสิริมงคล ทางด้าน เทวดาคุ้มครอง ป้องกันฟืนไฟ

สำหรับบุษราคัม เป็นอัญมณีประเภทคอรันดัมที่มีสีเหลือง 

วัดศรีอุบลรัตนาราม เดิมชื่อ วัดศรีทอง สร้างขึ้นในรัชสมัยพระสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔  ปี รัตนโกสินทร์ศกที่ ๗๔ แห่งราชวงศ์จักรี  (พุทธศักราช ๒๓๙๘ เป็นปีนักษัตรเถาะ)  เป็นวัดในสายธรรมยุตแห่งที่ ๒ ของภาคอีสาน   โดย เจ้าอุปฮาดโท (ต้นตระกูล ณ อุบล) มีจิตศรัทธาบริจาคที่ดินประมาณ ๒๕ ไร่ สำหรับสร้างวัด  ซึ่งในระหว่างพิธีการถวายที่ดินต่อหน้าพระเถระ  ในยามราตรีของวันนั้น เกิดนิมิตประหลาดขึ้น คือมีแสงสว่างพวยพุ่งขึ้นเป็นสีเหลืองทองภายในบริเวณสวนแห่งนั้น จึงได้ถือนิมิตมงคลนี้ ตั้งชื่อวัดว่า "วัดศรีทอง"

ในปี พ.ศ. ๒๓๙๘  เริ่มมีก่อสร้างกุฏิ วิหาร ศาลการเปรียญ  โดยคณะสงฆ์ที่มีท่านเทวธัมมี (ม้าว)  เจ้าอาวาสรูปแรก ซึ่งเป็นพระเถระที่ได้รับความเคารพยำเกรง จากพระภิกษุ สามเณร ข้าราชการ ตลอดจนประชาชน ในยุคสมัยนั้น  ในที่วัดศรีอุบลรัตนารามแห่งนี้ ยังใช้เป็นที่ทำพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา

ด้านหน้าพระอุโบสถ
ครั้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๑  พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ ๙) และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จมาประกอบพิธีฉลองสมโภชฝังลูกนิมิตร และยกช่อฟ้าพระอุโบสถ  ซึ่งสร้างตามแบบพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรฯ กรุงเทพฯ   ทางวัดจึงได้ทูลเกล้าถวายพระอุโบสถหลังนี้ ให้อยู่ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และทรงขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต เปลี่ยนชื่อจากวัดศรีทองเป็น "วัดศรีอุบลรัตนาราม" ตามนามขององค์อุปถัมภ์

ภายในโบสถ์
วัดศรีอุบลรัตนาราม แห่งนี้ เคยเป็นที่บรรพชาอุปสมบทของพระเถระผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายคันธุระและวิปัสนาธุระหลายรูป มีพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท), สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสฺโส), พระอาจารย์ทา โชติปาโล, พระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล, พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต, พระปัญญาพิศาลเถร (หนู ฐิตปญฺโญ), สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (สนั่น จนฺทปชฺโชโต), พระพรหมมุนี (บู่ สุจิณฺโณ) เป็นต้น

พิพิธภัณฑ์ ศรีอุบลรัตนาราม
เมื่อเดินเข้ามาในวัด ก็เดินเข้าไปเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์ศรีอุบลรัตนาราม (อยู่ทางด้านขวามือ) เป็นที่เก็บรวมโบราณวัตถุต่าง ที่สำคัญ ซึ่งบางชิ้นยังคงมีความงดงามทางศิลปะอยู่  ทางพิพิธภัณฑ์ ขอความร่วมมือ ในการไม่ให้ถ่ายภาพ จึงไม่ภาพมาให้ชม ครับ 😄    หลังจากเยี่ยมชม เสร็จ ทางด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์ จะมีศาลาเก็บอัฐธาตุ ของ  พระภาวนาวิศาลเถร (หลวงปู่บุญมี โชติปาโล) เจ้าอาวาสวัดสระประสานสุข

ภายใน ศาลาเก็บอัฐธาตุ
พระภาวนาวิศาลเถร (หลวงปู่บุญมี โชติปาโล)
เถรจารย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดสระประสานสุข

พระแก้วบุษราคัม

เดินเข้ามาในพระอุโบสถ รู้สึกเย็น สบาย หน้าต่างประดับด้วยกระจกสี ภายในโบสถ์ มีพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย  เมื่อสังเกตุดีๆ ก็จะพบพระแก้วบุษราคัม ตั้งอยู่ด้านหน้า พระองค์ใหญ่ เป็นสีเหลือง วาวใส เมื่อต้องแสง จากภายนอก

ภายในพระอุโบสถ
พระแก้วบุษราคัม มีขนาดหน้าตักกว้าง ๓ นิ้ว สูง ๕ นิ้ว สร้างขึ้นในช่วงความเลื่อมใส และศรัทธา โดยการสร้างพระพุทธรูปจากมณีนพเก้า  เกี่ยวเนื่องมาจาก พระเจ้าพรหมมหาราช แห่งโยนกเชียงแสนนครเงินยาง มีพระแก้วมรกตไว้ในพระนคร  ส่งผลให้เจ้านายตามนครต่างๆ สร้างพระพุทธรูปไว้ในนครของตน ซึ่งอยู่ในช่วงสมัยเดียวกับการสร้าง พระแก้วโกเมน (ปัจจุบันประดิษฐานที่วัดมณีวนาราม (วัดป่าน้อย)  จังหวัดอุบลราชธานี)

ภายในพระอุโบสถ (มุมมองกว้างขึ้น)
แต่เดิมพระแก้วบุษราคัมเป็นสมบัติของเจ้าปางคำ ราชวงศ์จากเมืองเชียงรุ้งแสนหวีฟ้า เป็นสมบัติตกทอดมาถึง พระเจ้าตาผู้เป็นลูก จากนั้น ในปี  พ.ศ.๒๓๑๔ เกิดสงคราม ทางเมืองเวียงจันทน์ยกทัพมาตี พระเจ้าตาถึงอสัญกรรมในสนามรบ  ทำให้ เจ้าพระวอ และท้าวคำผง อพยพหนีมาสร้างบ้านที่บ้านดอนมดแดง จ.อุบลราชธานี พร้อมอัญเชิญพระแก้วบุษราคัมมาด้วย มาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร พระเจ้ากรุงธนบุรี ได้มีการสร้างวัดหลวงใช้ประดิษฐานพระแก้วบุษราคัม

พระประธานในโบสถ์
เมื่อถึงรัชสมัยรัชกาลที่ ๕  ได้มีการปฏิรูปการปกครอง โดยมีการส่งข้าหลวงมากำกับดูแลงานตามหัวเมือง ทำให้ เจ้าราชบุตรหนูคำ (เจ้าเมืองสมัยนั้น) เกรงว่าข้าหลวงจะนำสิ่งสำคัญต่างๆ ของบ้านเมืองไปเป็นของตน จึงนำพระแก้วบุษราคัมออกจากวัดหลวงไปเก็บซ่อนไว้ที่บ้านวังกางฮุง

พระแก้วบุษราคัม
จนกระทั่งพระอุปฮาชโท สร้างวัดศรีทอง โดยมีท่านเทวธัมมี  เป็นเจ้าอาวาส  พระอุปฮาชโทจึงไปอัญเชิญพระแก้วบุษราคัมมา ประดิษฐานเป็นพระพุทธรูปสำคัญประจำวัด

ที่วัดมีประเพณีสรงน้ำพระแก้วบุษราคัม ในช่วงสงกรานต์ของทุกปี  และโบสถ์เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าสักการะได้ในช่วงเวลาแปดโมงเช้า ถึง ห้าโมงเย็น (๘:๐๐ - ๑๗:๐๐ น.)

สำหรับวัดลำดับที่ ๕ ที่จะไป คือ วัดทุ่งศรีเมือง


การเดินทาง

ออกจากวัดสระประสานสุข เลี้ยวซ้าย ๑๒๐ เมตร พบสามแยกแรกเลี้ยวซ้ายไป ๑๗๐ เมตร พบสี่แยกเลี้ยวซ้ายและเลี้ยวขวา เมื่อถึงสามแยกแรก เลี้ยวซ้ายจนสุดทางเป็นสามแยก แล้วเลี้ยวซ้ายกับขวาที่สามแยกแรก เลี้ยวขวา ไปประมาณ ๑ กิโลเมตร จะพบสี่แยก เลี้ยวซ้าย เข้าสู่ถนนสุขาสงเคราะห์ ขับไป ๑.๔ กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเพื่อบรรจบกับซอยชยางกรู ๒๑ ขับเรื่อยมาออกสู่ถนนชยางกรู เลี้ยวซ้าย แล้วตรงมา ๓ กิโลเมตร พบสี่แยก ถนนศรีณรงค์ตัดกับถนน โชคชัย-เดชอุดม เลี้ยวขวา ไป ๖๐ เมตร จะพบวัดศรีอุบลรัตนาราม อยู่ทางขวามือ


พิกัด GPS  วัดศรีอุบลรัตนาราม  จังหวัดอุบลราชธานี  :     15.228063, 104.855998

แผนที่  วัดศรีอุบลรัตนาราม  จังหวัดอุบลราชธานี  



ขอบคุณ  ครับ  😄


ไหว้พระ ๙ วัด จังหวัดอุบลราชธานี 

วัดที่ ๑ วัดหนองป่าพง
วัดที่ ๒ วัดพระธาตุหนองบัว
วัดที่ ๓ วัดสระประสานสุข
วัดที่ ๔ วัดศรีอุบลรัตนาราม
วัดที่ ๕ วัดทุ่งศรีเมือง
วัดที่ ๖ วัดใต้ พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ
วัดที่ ๗ วัดมหาวนาราม
วัดที่ ๘ วัดถ้ำคูหาสวรรค์
วัดที่ ๙ วัดสิรินธรวราราม ภูพร้าว

สำหรับท่านที่ สนใจหาที่พักใน จังหวัดอุบลธานี  สามารถกดดูรายละเอียดที่  ลิงค์นี้  หรือ  ลิงค์นี้  ก็ได้ ครับ  (กรณีต้องการลงอำเภอ สามารถระบุใหม่ได้ ครับ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น