เที่ยวไหนดี? ... ไหว้พระ ๙ วัด อุบลราชธานี วัดที่ ๕ วัดทุ่งศรีเมือง

เที่ยวไหนดี? ...  ไหว้พระ ๙ วัด  อุบลราชธานี  วัดที่ ๕ วัดทุ่งศรีเมือง 😀

ออกจาก วัดศรีอุบลรัตนาราม ห่างเพียงหนึ่งกิโลเมตร ก็ถึง วัดทุ่งศรีเมือง ตั้งอยู่เลขที่  ๙๕  ถนนหลวง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี   ที่วัดแห่งนี้ มี หอไตรกลางน้ำ อายุราว ๑๕๐ ปี เป็นโบราณสถานสำคัญ ซึ่งเป็นศิลปะแบบผสมผสาน ระหว่าง ศิลปะล้านช้าง, ศิลปะพม่า, ศิลปะไทยสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ตอนต้น

หอไตรกลางน้ำ
วัดทุ่งศรีเมือง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อ พุทธศักราช ๒๓๕๖ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒  ในสมัยที่สมเด็จกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ข้าหลวงต่างพระองค์ ได้ตกลงกับเจ้าของที่ดินหลายคน ในการยกที่ดิน ให้กับทางราชการ  ซึ่งชาวบ้านมักเรียกที่ดินดังกล่าว ว่า "ทุ่งศรีเมือง" ใช้ในการจัดงานพระราชพิธี, งานสำคัญต่างๆของบ้านเมือง รวมถึง ประเพณีเผาศพ แบบ  ดั้งเดิม สำหรับ ราชสกุลที่มีมาแต่เชียงรุ้งแสนหวีฟ้า, เจ้านายชั้นสูง, พระเถรจารย์ เป็น พิธีเผาศพ โดยอัญเชิญศพ ขึ้นเมรุที่สร้างเป็นรูปนกหัสดีลิงค์ หรือนักสักกะไดลิงก์ แล้วชักลากออกไปบำเพ็ญกุศลที่ทุ่งศรีเมือง จำนวน ๓ วัน จึงประกอบพิธีเผาศพ มีการทำเรื่อยมาจนถึงปี พ.ศ. ๒๔๔๘ แล้วหยุดไป จนมีการรื้อพื้นประเพณีนี้อีกครั้ง ในปี พ.ศ ๒๕๕๘    สำหรับวัดทุ่งศรีเมือง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของทุ่งศรีเมือง มีพื้นที่ ๑๙ ไร่ ๒ งาน ๒๓ ตารางวา

ในรัชสมัยสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้แต่งตั้ง เจ้าคุณพระอริยาวงศาจารย์ญาณวิมล อุบลสังฆปาโมกข์ (สุ้ย หลักคำ) [อยู่ในช่วงประมาณปีพ.ศ. ๒๓๓๐ - ๒๓๙๐]  แห่งวัดป่าแก้วมณีวัน  หรือวัดป่าน้อยในปัจจุบัน มาเป็น ผู้ปกครองคณะสงฆ์เมืองอุบลราชธานี และเสริมสร้างระบบการศึกษา  ท่านเคยพำนักอยู่ที่วัดสระเกศ ในช่วงที่มีการบูรณะสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ภายในวัดสระเกศ


หอไตรกลางน้ำ และ ศาลาการปรียญ
พระอุโบสถหรือหอพระบาทและพระพุทธบาทจำลอง

ครั้นเมื่อท่านมาถึงเมืองอุบลราชธานี  ท่านได้เริ่มการก่อสร้าง พระอุโบสถหรือหอพระบาท มีความกว้าง ๖ เมตร ยาว ๑๓ เมตร หลังคาทรงไทยศิลปะเวียงจันทน์ ต่อมาได้พูนดินบริเวณลานหอพระพุทธบาทเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมในฤดูฝน โดยได้สร้างเป็นเขื่อนกำแพงแก้วหอพระพุทธบาท เป็นสองชั้นรอบๆพระพุทธบาท กำแพงมีขนาด กว้าง ๒๓ เมตร ยาว ๓๒ เมตร ซึ่งการพูนดินทำเหมือนเป็นฐานรองรับหอพระพุทธบาท  ส่วนดินที่นำมาพูนนั้น ขุดจากสระด้านทิศเหนือ ทำให้มีขนาดกว้าง ๑๓ เมตร ยาว ๒๔ เมตร ลึก ๓ เมตร  ภายหลัง ได้สร้างหอไตรไว้กลางสระแห่งนี้   แต่ดินจากสระนี้ ไม่พอสำหรับการพูนดิน จึงมีการขุดสระเพิ่มขึ้นในขนาดเดียวกัน  ทางด้านทิศตะวันตกของวัด สระนี้เรียกว่า "สระหนองหมากแซว" เพราะมีต้นหมากแซวใหญ่ต้นหนึ่งอยู่ข้างสระ   ภายในพระอุโบสถแห่งนี้ มีพระพุทธบาทจำลอง

พระเจ้าใหญ่องค์เงิน
พระพุทธรูปปางมารวิชัย ซึ่งเป็นพระประธาน ศิลปะอีสาน (ช่วงรัตนโกสินทร์ตอนต้น)  องค์พระสร้างจากเนื้อเงิน แต่ถูกสีทองปิดทับมาก่อน ประดิษฐานภายในหอพระบาท ไม่ปรากฎประวัติการสร้างที่แน่นอน สันนิษฐานว่าหลังจากหอพระบาทแล้วเสร็จ


หอไตรกลางน้ำ
หลังจากพระอุโบสถแล้วเสร็จ เจ้าคุณพระอริยาวงศาจารย์ฯ ได้ให้ ญาคูช่าง สร้างหอไตรไว้ตรงกลางสระแรกที่ขุด เพื่อใช้เป็นที่เก็บรักษาพระไตรปิฎก สมุดข่อย ใบลาน ความรู้พื้นบ้านต้างๆ ไม่ให้แห้งกรอบ และไม่ให้ปลวกกัดแทะ กาลเวลาผ่านไปเนิ่นาน หอไตรเริ่มทรุดโทรม จึงมีการบูรณะในปี พ.ศ. ๒๕๒๐ และหอไตรหลังนี้ ได้รับรางวัลอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดีเด่นจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามมงกุฎราชกุมารี  ขนาดของหอไตร กว้าง ๘.๒๐ เมตร ยาว ๙.๘๕ เมตร เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า สูงทั้งหมดถึงยอดหลังคา ๑๐ เมตร อาคารยกพื้นสูงใต้ถุนโปร่ง หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ด้านหน้ามีสะพานไม้ทอด ชั้นหลังคาประดับช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์  ภายในหอไตรตรงกลางมีกั้นผนัง ยกพื้นสูงอีกชั้นหนึ่งสำหรับเป็นห้องเก็บพระไตรปิฎก

ส่วนหน้าบันของหอไตร เป็นงานไม้จำหลักลวดลายพรรณพฤกษา  ระหว่างชั้นลดของหน้าบันมีลวดลายกระจังฐานพระ กรอบหน้าบันประดับด้วยช่อฟ้า ใบระกา นาคสะดุ้ง และหางหงส์   ส่วนคันทวย ณ บริเวณประตูทางเข้าจำหลักเป็นรูปเทพนม  ส่วนบริเวณอื่นๆ โดยรอบหอไตรเป็นรูปพญานาค

หอไตร
พระเจ้าใหญ่ศรีเมือง
ในปี พ.ศ. ๒๔๕๘ พระครูวจีสุนทร เจ้าคณะอำเภอม่วงสามสิบ และ ท่านพระครูวิโรจน์รัตโนบล เป็นเจ้าอาวาส ได้พาพระเณร  ได้ริเริ่มทำพลับพลา โดยการตัดเสาศาลาการเปรียญที่คำน้ำแซบ วัดวารินทรารามในปัจจุบัน   เมื่อตัดเสาได้แล้ว ก็สร้างล้อลากลงแม่น้ำมูลข้ามมา เพื่อที่จะมาสร้างศาลาการเปรียญ ที่วัดทุ่งศรีเมือง  และได้มีการเชิญชวนพุทธศาสนิกชน มาช่วยกัน จนเสร็จ ขณะนั้น วัดเหนือท่า เป็นวัดร้าง ทางราชการจะสร้างเป็นสถานีอนามัย  ซึ่งที่วัดเหนือท่า มี พระเจ้าใหญ่ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง ๒.๓๙ เมตร  เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ที่มีประวัติว่าสร้างขึ้น พร้อมกับการสร้างเมืองอุบลราชธานี สร้างในยุคสมัยเดียวกัน “พระเจ้าองค์หลวง” ซึ่งประดิษฐานไว้ที่วัดหลวง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี 

พระเจ้าใหญ่ ประดิษฐานอยู่ในศาลาการเปรียญวัดเหนือท่า อยู่ในสภาพทรุดโทรม และไม่มีพระสงฆ์ อยู่ดูแล   พระครูวิโรจน์รัตโนบล พร้อมญาติโยม จึงไปอัญเชิญ มาเป็นพระประธานที่ศาลาการเปรียญวัดทุ่งศรีเมือง แล้วทำการบูรณะซ่อมแซมเศียรพระเจ้าใหญ่ศรีเมืองที่ชำรุด ขึ้นมาใหม่   โดยจำลองให้คล้ายกับ “พระเหลาเทพนิมิต” ที่วัดพระเหลาเทพนิมิต อำเภอพนา จังหวัดอำนาจเจริญ

ช่วงที่ไปมีพิธีการทางศาสนาอยู่ จึงไม่ได้เก็บภาพในส่วนต่างๆ  นอกจาก หอไตรเป็นหลัก    วัดทุ่งศรีเมืองจึงเป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เมืองอุบลราชธานี 

สำหรับวัดลำดับถัดไป คือ วัดใต้ พระเจ้าองค์ใหญ่


การเดินทาง
จาก วัดศรีอุบลรัตนาราม  มาที่ วัดทุ่งศรีเมือง โดยออกจากวัดศรีอุบลรัตนาราม เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนศรีณรงค์  ไป ๖๐๐ เมตร (มีผ่านสี่แยก) เลี้ยวซ้ายไป ๑๑๐ เมตร เลี้ยวซ้ายและเลี้ยวขวา ก็จะถึงวัดทุ่งศรีเมือง



พิกัด GPS  วัดทุ่งศรีเมือง  จังหวัดอุบลราชธานี  :     15.229978, 104.861110

แผนที่  วัดทุ่งศรีเมือง  จังหวัดอุบลราชธานี  



ขอบคุณ  ครับ  😄


ไหว้พระ ๙ วัด จังหวัดอุบลราชธานี 

วัดที่ ๑ วัดหนองป่าพง
วัดที่ ๒ วัดพระธาตุหนองบัว
วัดที่ ๓ วัดสระประสานสุข
วัดที่ ๔ วัดศรีอุบลรัตนาราม
วัดที่ ๕ วัดทุ่งศรีเมือง
วัดที่ ๖ วัดใต้ พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ
วัดที่ ๗ วัดมหาวนาราม
วัดที่ ๘ วัดถ้ำคูหาสวรรค์
วัดที่ ๙ วัดสิรินธรวราราม ภูพร้าว

สำหรับท่านที่ สนใจหาที่พักใน จังหวัดอุบลธานี  สามารถกดดูรายละเอียดที่  ลิงค์นี้  หรือ  ลิงค์นี้  ก็ได้ ครับ  (กรณีต้องการลงอำเภอ สามารถระบุใหม่ได้ ครับ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น