เที่ยวไหนดี? ... น่าน อ.เมือง ไหว้พระ ๙ วัด ๕ วัดมิ่งเมือง

เที่ยวไหนดี? ...  น่าน อ.เมือง ไหว้พระ ๙ วัด   ๕ วัดมิ่งเมือง  😀 

ออกจาก วัดศรีพันต้น จ.น่าน  ถ้าเลี้ยวซ้ายไป ๒๐ เมตรแล้วพบ สี่แยกไฟแดง ก็ตรงขึ้นไป หากออกไปอีกประตู ให้เลี้ยวขวาไป ๒๐ เมตร แล้วพบสี่แยกไฟแดง ให้เลี้ยวซ้าย เมื่อผ่านสี่แยกไฟแดง  เข้าสู่ถนนยันตรกิจโกศล มุ่งหน้าไป ๓๕๐ เมตร (มีผ่านสี่แยก ตัดกันระหว่าง ถนนสุริยพงษ์กับ ถนนอริยะวงศ์ จะพบวัดมิ่งเมือง ทางด้านขวามือ

ป้ายวัดมิ่งเมือง จ.น่าน
วัดมิ่งเมือง ตั้งอยู่เลขที่ ๓๖ ถนนสุริยพงษ์ บ้านมิ่งเมือง ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ตั้งแต่อดีตกาล น่าน เป็นนครอิสระที่รุ่งโรจน์ ปกครองตนเองในราว พุทธศตวรรษที่ ๑๘ จนถึงปี พ.ศ. ๑๙๙๓   ภายหลังได้ขึ้นตรงต่ออาณาจักรลานนา (พ.ศ. ๑๙๙๓-๒๑๐๑), อาณาจักรพม่า (พ.ศ. ๒๑๒๓-๒๓๒๙) และกรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ. ๒๕๓๕- ๒๔๗๔ (สิ้นสุดการปกครองแบบเจ้าผู้ครองนคร))

ช่วงการปกครองรัตนโกสินทร์ (ยุคต้น)  ยังเป็นช่วงที่เจ้าผู้ครองนครน่าน มี ๒ ฝ่าย คือ พระยามงคลวรยศเป็นเจ้าเมืองขึ้นกับฝ่ายกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่ที่ท่าปลา และ เจ้าอัตถวรปัญโญ (ภายหลังโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาเป็นเจ้าฟ้า ปี พ.ศ. ๒๓๔๗) เป็นเจ้าเมืองขึ้นกับฝ่ายพม่าตั้งอยู่ที่เมืองเทิง  ในปี พ.ศ. ๒๓๒๙  เจ้าอัตถวรปัญโญ  ไปหา พระยามงคลวรยศที่เมืองท่าปลา ขอเข้าพึ่งพระบรมโพธิสมภารในกรุงเทพมหานคร พระยามงคลวรยศ มีความยินดี จึงมอบบ้านเมืองให้เจ้าอัตถวรปัญโญ ทรงปกครองนครน่าน ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๓๒๙ - ๒๓๕๓ (๒๔ ปี)

ป้ายเสาพระหลักเมืองน่าน

สำหรับวัดมิ่งเมืองนี้ ไม่ปรากฎหลักฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อใด  แต่มีหลักฐานการสร้างเสาหลักเมือง ซึ่งแต่เดิมมาเมืองน่านไม่มีคติการสร้างเสาหลักเมือง  เพิ่งเริ่มมีมาในสมัยของเจ้าอัตถวรปัญโญ  พระองค์ ได้ให้ทำการสร้างเสาหลักเมืองน่าน หรือ "เสามิ่งเมือง” ในปี พ.ศ. ๒๓๓๓ เป็น ไม้สักทองขนาดใหญ่ สร้างในพื้นที่ที่เป็นวัดมิ่งเมือง ในปัจจุบัน  มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๖๐ เซนติเมตร  สูง ประมาณ ๓ เมตร ลักษณะเป็นเสาทรงกลมส่วนหัวเสาเกลาเป็น ดอกบัวตูมฝังไว้กับพื้นที่ดินโดยตรง ไม่มีอาคารหรือศาลครอบ  จนกระทั่งในปี พ.ศ. ๒๕๐๖  เมืองน่านได้เกิดน้ำท่วมใหญ่ แม่น้ำน่านไหลเข้าท่วมถึงเสามิ่งเมือง ตัวเสาอายุร้อยกว่าปี ที่เริ่มผุกร่อนจึงโค่นล้มลง ในปี พ.ศ. ๒๕๑๔  ผู้ว่าราชการจังหวัดน่านในสมัยนั้น ได้นำข้าราชการ และประชาชนชาวน่าน ร่วมกันสร้างเสาหลักเมืองน่านขึ้นใหม่ เมื่อถึงปี พ.ศ. ๒๕๑๖  ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงเป็นองค์ประธานในการประกอบพิธีตั้งเสาหลักเมืองน่าน

ครั้นกาลเวลาล่วงเลยมาถึงปี พ.ศ. ๒๕๔๘  ศาลหลักเมืองน่านทรุดโทรมลง ทางเจ้าอาวาสวัดมิ่งเมือง พระครูสิริธรรมภาณี เจ้าคณะอำเภอเมืองน่าน โดยความเห็นชอบของคณะสงฆ์จังหวัดน่าน และทางราชการ ได้ทำการรื้อถอนศาลหลักเมืองน่านเดิมลง  ทางราชการและภาคประชาชนชาวน่าน ได้ร่วมใจกันสร้างศาลหลักเมืองหลังใหม่ขึ้น เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวโรกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ในปี พ.ศ. ๒๕๔๙  และทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๘๐ พรรษา ในปี  พ.ศ. ๒๕๕๐  โดยมีนายเสาร์แก้ว เลาดี เป็นผู้ออกแบบและดำเนินการก่อสร้างศาลหลักเมืองน่านจนแล้วเสร็จ

ในวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ โปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามมกุฎราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทรงยกยอดเศียรท้าวมหาพรหมยอดศาลหลักเมืองน่าน และเป็นองค์ประธานประกอบพิธีตั้งเสาหลักเมืองน่าน   ปัจจุบัน เสาหลักเมืองน่านมีลักษณะฐานประดับด้วยไม้แกะลวดลายลงรักปิดทอง ยอดเสาแกะสลักเป็นรูปพรหมพักตร์  ๔ หน้า คือ เมตตา กรุณา มุทิตา และ อุเบกขา   ซึ่ง ทิศเหนือ  มีพระเมตตา ท่านท้าวเวสสุวรรณ เป็นผู้รักษา ผู้ใดสักการะ ณ ทิศ นี้ จะมีอำนาจ มีบารมี มีความมั่นคง มีความกล้าแข็ง เข้มแข็ง  เป็นที่เคารพ เกรงขาม,  ทิศตะวันออก มี พระกรุณา ท่านท้าวธะตะรัฎฐะ เป็นผู้รักษา ผู้ใดสักการะ ณ ทิศนี้ มีเสน่ห์ เมตตามหานิยม เป็นที่รัก เป็นที่ปราถนาและชื่นชอบของคนและเทวดา, ทิศใต้ พระมุทิตา  ท่านท้าววิรุฬหะกะ เป็นผู้รักษา ผู้ใดสักการะ ณ ทิศแห่งนี้ มีความมั่งคั่ง ร่ำรวย อุดมสมบูรณ์ ทั้งทรัพย์สมบัติ ชื่อเสียง เกียรติยศ และบริวาร, ทิศตะวันตก พระอุเบกขา ท่านท้าววิรูปักษ์ เป็นผู้รักษา  ผู้ใดสักการะ ณ ทิศแห่งนี้ จักเป็นผู้ มีความสงบ ร่มเย็นเป็นสุข มีสันติภาพ ภราดรภาพ เป็นที่เคารพ นับถือ เชื่อถือ


เสาหลักเมืองใน ศาลาจตุรมุข

หากท่านใด เมื่อมาถึงจังหวัดน่าน และได้มีโอกาสไปสักการะ  เสาหลักเมืองนี้ ถือได้ว่าเป็นสิริมงคลสำหรับตนเองและครอบครัว เพราะเสาหลักเมืองถือเป็น “หัวใจเมือง” เป็นศูนย์รวมจิตใจและเป็นที่เคารพสักการะของคนทั้งเมือง

พระพุทธรัตนวรตรัยวลัชญ์กรศรีนครน่านมหามุนี

ก่อนถึงศาลาจตุรมุข (เสาหลักเมือง) มีพระพุทธรูป ๒ องค์ตั้งอยู่ไม่ห่างมากนัก คือ พระพุทธรัตนวรตรัยวลัชญ์กรศรีนครน่านมหามุนี หรือ หลวงพ่อห้ามมาร และพระนาคปรก  สำหรับด้านหลังศาลาจตุรมุขนั้น เป็นพระอุโบสถสีขาว ลวดลายปูนปั้นรอบผนังด้านนอกเป็นประติมากรรมเกี่ยวกับสัตว์หิมพานต์ ความเชื่อของตัวละครในวรรณคดีต่างๆ เช่น ยักษ์ คนธรรพ์ ราหู หงส์ ฯลฯ รวมถึงลวดลายพื้นหลังที่ไม่ซ้ำกันรอบอาคารโบสถ์และศาลหลักเมือง  และยังมีภาพประติมากรรมภาพนูนต่ำบริเวณผนังกั้นชานระเบียงที่แสดงถึงวัฒนธรรมประเพณีของชาวเมืองน่านแต่โบราณ ซึ่งสร้างโดยฝีมือสล่าเสาร์แก้ว เลาดี (สกุลช่างเชียงแสนโบราณ)


พระอุโบสถ วัดมิ่งเมือง
ด้านข้างพระอุโบสถ มีศาลาหลวงพ่อทันใจ เป็นศิลปะปูนปั้นในรูปแบบที่สอคคล้องกับตัวโบสถ์  เมื่อเดินเข้ามาภายใน ก่อนเข้าไปข้างในโบสถ์ มีความวิจิตรงดงาม และสื่อถึงความอ่อนช้อยของลวดลายต่างๆ  ที่ตัวเสา และประตูทางเข้า

ประตูทางเข้า โบสถ์
เมื่อเข้าไปภายในพระอุโบสถ  เหมือนกำลังจะมีการเตรียมงานพิธีอยู่  รอบผนังด้านในของตัวโบสถ์มีจิตรกรรมฝาผนัง ที่สื่อถึงประวัติความเป็นมาของเมืองน่าน และวิถีความเป็นอยู่ของชุมชนชาวเมืองน่าน  พระประธานในอุโบสถเป็นองค์เดิมที่มีมาพร้อมกับการสร้าง วัดมิ่งเมือง ในปีพ.ศ. ๒๔๐๐


พระประธาน ในดบสถ์ วัดมิ่งเมือง น่าน

จิตรกรรมฝาผนัง ที่สื่อถึงประวัติเมืองน่าน และวิถีความเป็นอยู่

รายละเอียดลวดลายของด้านนอกรอบโบสถ์
ศิลปะที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นที่วัดมิ่งเมือง แห่งนี้ ยังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ ยังคงต้องมีการเก็บรายละเอียดในอีกหลายๆ จุด  ซึ่งสำหรับผม ถือว่า วัดแห่งนี้ จัดเป็น unseen อีกแห่งของเมืองน่านได้เลย  ภายในวัด รับรู้ได้ถึงความร่มเย็น และสงบ ถึงแม้ผู้คนจะดูเยอะสักหน่อย บรรยากาศโดยรวมของเมืองน่าน หลังจากสัมผัสมาได้ ๔ วัด แล้วรู้สึกได้ ว่า เป็นเมืองที่น่าอยู่ ตามที่หลายๆ คนบอกกล่าว จริงๆ ครับ   หาก ท่านมี โอกาส ก็น่าจะมา แวะ น่าน สัก คืน นะครับ   ใกล้จะค่ำแล้ว  คงต้องรีบหาที่พัก ก่อน ครับ  และแล้วก็ได้ ที่พัก คือ โรงแรมสบายน่าน ครับ

พิกัด GPS วัดมิ่งเมือง :  18.774641, 100.769115

แผนที่ วัดมิ่งเมือง





ขอบคุณ  ครับ  😄


สำหรับท่านที่ สนใจจะจองที่พักในจังหวัดน่าน  สามารถกดดูรายละเอียดที่  ลิงค์นี้  หรือ  ลิงค์นี้  ก็ได้ ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น