เที่ยวไหนดี? ... ชลบุรี ศรีราชา รับประทานอาหารที่ ร้าน 45 E-sarn cuisine

เที่ยวไหนดี? ... ชลบุรี ศรีราชา รับประทานอาหารที่ ร้าน 45 E-sarn cuisine 😄

หลังจากเข้าพักที่ โรงแรม เคปทาวน์ ศรีราชา เรสซิเดนซ์ (Capetown Sriracha Residence) ห้อง Sea view เป็นที่เรียบร้อยแล้ว  เมื่อถึงเวลามื้ออาหารค่ำ ก็ออกตระเวนหาร้านอาหาร ในศรีราชา  แวะมาทำธุระที่ห้างสรรพสินค้า โรบินสัน ศรีราชา สักพักก่อน   สำหรับโรบินสัน ศรีราชา ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่ง ที่เหมาะสำหรับการมาช็อปปิ้ง หรือแวะเวียน ซื้อหาของรับประทาน หรือ เสื้อผ้าแฟชั่น สำหรับคุณผู้หญิง  ด้านข้างอาคารโรบินสัน ศรีราชา จะเป็นสินค้าแฟชั่น เสียส่วนใหญ่ ร้านค้า จะตั้งครอบคลุม จากด้านหน้าห้างสรรพสินค้า (จุดทางด้านนี้ ส่วนใหญ่เป็นเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่ม) และเรื่อยมาถึงช่วงหัวโค้งและมาสิ้นสุดด้านข้างห้าง บริเวณทางออกของอาคารจอดรถ (ส่วนนี้จะเป็นสินค้าของประดับ ของสวยงามและ เสื้อผ้าแฟชั่น)

ส่วนใหญ่ ร้านอาหารที่มาขาย จะเหมาะสำหรับการซื้อกลับบ้าน บางร้านก็มีการเตรียมอุปกรณ์ให้ลูกค้าพร้อม เช่น ชามโฟม จานโฟม  แต่สำหรับสถานที่การรับประทานอาหารนั้น คงต้องใช้ฝีมือ ในการหาครับ  บางร้านก็มีเตรียมที่นั่งให้  แต่น้อยร้านที่จะมี ครับ

หลังจากเสร็จธุระ ก็มาพบร้านอาหาร 45 E-sarn cuisine ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังของห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ศรีราชา  ถ้าจอดรถที่ห้าง ก็เดินมาประมาณ ๕๐๐ เมตร หรือหากจะขับรถมาก็สามารถมาจอดทางด้านหน้าร้าน หรือไม่ก็ซอยข้างๆ ร้าน ก็จะพอมีบ้าง ครับ


พิกัด  GPS :  13.165988, 100.928542

แผนที่



การเดินทาง

เมื่อออกจาก โรงแรม เคปทาวน์ ศรีราชา เรสซิเดนซ์ (Capetown Sriracha Residence) มุ่งหน้าไป ๘๐ เมตรร เลี้ยวซ้าย ชับตามเส้นทางไป ๕๐๐ เมตร จะถึงถนนใหญ่ (ถนนสุขุมวิท) ทางหลวงหมายเลข ๓  เลี้ยวซ้ายอีกครั้ง ขับไปอีก ๑.๖ กิโลเมตร  เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเทศบาล๑ ไป ๒๕๐ เมตร จะพบร้านอาหารอยู่ทางด้านซ้ายมือ


กรณีมาจากกรุงเทพฯ

จากกรุงเทพฯ เข้าสู่ถนนวงแหวนรอบนอก เส้นทางหลวงหมายเลข ๙ มุ่งหน้าไป เส้นทาง กรุงเทพ-ชลบุรี (สายใหม่)  ทางหลวงหมายเลข ๗ หรือ Motor Way  เป็นเส้นทางเดียวกับทางไป สนามบินสุวรรณภูมิ   ถ้าเดินทางมาจาก บางปะอิน เมื่อชำระค่าบริการที่ด่านทับช้าง สัก ๒ กิโลเมตรก็จะเลี้ยวซ้ายเข้า Motor Way ได้เลย

หากมาทาง พระราม๒ ก่อนจะถึง ด่านทับช้าง ก็จะมีป้ายบอกทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ

หลังจากเข้าเส้นทาง Motor Way แล้ว มุ่งหน้ามาทางสนามบินสุวรรณภูมิ ขับตรงไป รับบัตรที่ ด่านลาดกระบัง แล้วมาชำระเงินที่ด่านพานทอง สำหรับค่าบริการรถ ๔ ล้อ อยู่ที่ ๖๐ บาท/คัน  ขับตามเส้นทางหลวงหมายเลข ๗ ไปอีก ๑๓.๕ กิโลเมตร ใช้ทางออก บางแสน ชลบุรี แล้วมุ่งหน้าไปทาง บางแสน ชลบุรี เมื่อออกมาแล้ว ขับชิดขวา แล้วกลับรถใต้สะพาน ที่จุดกลับรถ จุดแรก ทันที

กลับรถเสร็จ ชิดซ้าย ทันที เพื่อเลี้ยวซ้าย เข้าถนน คู่กับถนนข้าวหลาม ขับตามเส้นทางไป ๙.๕ กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถนนสุขุมวิท ขับไป ๘.๗ กิโลเมตร ถึงสามแยกดาราสมุทร เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเจิมจอมพล เข้ามาประมาณ ๙๐๐ เมตร ขับตรง อ้อมผ่านวงเวียนเล็กน้อย ไปต่ออีก ๘๕๐ เมตร   พบสี่แยก และ มีธนาคารกรุงไทยสาขาตลาดศรีราชา เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสุรศักดิ์๑ พบสี่แยกแรก เลี้ยวซ้าย ไป ๑๓๐ เมตร และเลี้ยวขวา ไป ๓๕๐ เมตร จะพบร้านอยู่ทางด้าน ซ้ายมือ

ด้านหน้าร้าน 45 E-sarn cuisine

ทางร้านมีการแบ่ง พื้นที่เป็นสองส่วน คือ สำหรับผู้ที่ชอบบรรยากาศภายนอก ก็มีด้านนอก ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ จะเหมาะสำหรับช่วงประมาณ ห้าโมงเย็นเป็นต้นไป  สำหรับผมตอนนี้ อากาศภายนอก ค่อนข้างร้อนอยู่ก็ เข้ามานั่งในส่วนของห้องปรับอากาศ (ห้องแอร์) สักหน่อย

พื้นที่ภายนอก
ภายในห้องแอร์ น่าจะเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบชมกีฬาฟุตบอล เพราะมีการเปิดช่องที่เกี่ยวกับฟุตบอลอย่างต่อเนื่อง   หาก ลุกค้าท่านใด ที่ ยังไม่ถึงเวลามื้ออาหารก็สามารถเข้ามาสั่งเป็นประเภทเครื่องดื่มร้อน หรือเย็น และของหวาน ก็มี ครับ

เค้านเคอร์ รับออเดอร์
ภายในห้องแอร์
แต่ละโต๊ะ จะตกแต่งให้มีกลิ่นอายของความเป็นอีสาน คือ มีผ้ารองโต๊ะ ที่เป็นลายผ้าขาวม้า อยู่กลางโต๊ะ  เพราะจะมีผืนเล็กๆ ขนาดประมาณผ้าพันคอผืนใหญ่ พาดอยู่ แต่ละโต๊ะ ก็จะเป็นสีที่ไม่เหมือนกัน สำหรับ  รายการอาหารที่ผมสั่งมาชิม จะเป็นส้มตำปูม้า, กุ้งอบวุ้นเส้น, ต้มยำโป๊ะแตก และ คอหมูย่าง สำหรับ ทางร้านแนะนำ คอหมูย่าง  ซึ่งทางร้านจะคัดแต่เนื้อที่มีมันน้อย มาให้ .... (อันนี้ ก็นับว่าช่วยลดปริมาณไขมันที่จะเพิ่มน้ำหนักได้บ้าง แต่ความอร่อยยังคงอยู่)

ส้มตำปูม้า
ต้มยำโป๊ะแตก
คอหมูย่าง แบบ มันน้อย
กุ้งอบวุ้นเส้น
โดยรวมแล้วอาหารจะออกแนว กึ่งๆ ไปทางด้านที่ไม่เข้มข้นมากนัก อาจจะเพราะปรับรสชาติให้เหมาะกับชาวต่างชาติด้วย สำหรับต้มยำโป๊ะแตก ก็ซดน้ำ ชุ่มคอ ดี ครับ  ขอแนะนำ คอหมูย่าง นะครับ  รสชาติเนื้อหมู่ นุ่มมาก

ครัว ซึ่งอยู่ในพื้นที่ด้านหน้าร้าน เหมาะสำหรับต้อนรับลูกค้าได้ทั่วถึง
มีห้องจัดเลี้ยง ไว้รอบรับสำหรับลูกค้าที่มาเป็นกลุ่ม
หลังจากอิ่มท้อง รองรับมื่อเย็นแล้ว ก็เดินทางกลับ เข้าพักโรงแรม เคปทาวน์ ศรีราชา เรสซิเดนซ์ (Capetown Sriracha Residence) ต่อ ครับ


ขอบคุณ ครับ  😄



สำหรับท่านที่สนใจ หาที่พักใน ศรีราชา ในแนว Sea view ก็มี ที่ โรงแรม Sourire Beach Front Sriracha
หรือ โรงแรมคาริน KARIN HOTEL  & SERVICED APARTMENT

หรือ รายละเอียดห้องพักอื่นๆ  ใน อ.ศรีราชา สามารถ กดลิงค์ ด้านล่าง ได้ ครับ

       

เที่ยวไหนดี? ... ชลบุรี บางแสน แสนสุข กินข้าวที่ Jagiya หม้อไฟเกาหลี ม.บูรพา

เที่ยวไหนดี? ... ชลบุรี บางแสน แสนสุข กินข้าวที่ Jagiya หม้อไฟเกาหลี 😄


กลางเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๖๐  มาทำธุระที่บางแสน จังหวัดชลบุรี ประมาณบ่ายสามโมง ท้องเริ่มร้อง ก็ทำการค้นหาร้านอาหารอร่อย สถานที่ร้านที่ใกล้ที่สุด ขณะนั้น คือ ร้าน Jagiya เป็นร้านสไตล์เกาหลี ทำแบบหม้อไฟ หรือจะเรียกอีกแนวว่า ชาบู ก็ได้   ร้านนี้ อยู่ใกล้ ม.บูรพา  ถนนบางแสนสาย ๔ ใต้   ร้านอยู่ตรงข้าม ร้านเสื้อผ้า ๑๐๐ บาท อยู่ใน ซอย สดใส ตำบลแสนสุข  อ.เมืองชลบุรี  จ.ชลบุรี  หากเดินทางมาด้วยรถยนต์ ทางร้านมีที่จอดรถรองรับอยู่ด้านหลัง และหาก เดินทางมาด้วยรถจักรยานยนต์ สามารถจอดที่หน้าร้านได้เลย ครับ

หน้าร้านแต่ง สไตล๋เกาหลี โต๊ะอาหารและเก้าอี้เป็นรูปแบบทำจากไม้ ผนังด้านในตกแต่งแนวปูนเปลือย มี รูปการ์ตูนหมี เป็นลายเส้น ประกอบ เล็กน้อย ดูเด่น และน่ารัก  มาที่นั่งรองรับสำหรับท่านที่มารับประทานเพียงคนเดียว และกลุ่ม  วันที่มา คนในร้านค่อนข้างเยอะ    รายการอาหารที่นี่ส่วนใหญ่เป็นรายการอาหารเกาหลี ที่เน้น จะเป็นหม้อไฟ  มีหม้อไฟหมู, เบคอน, ทะเล  สำหรับน้ำมีให้เลือก ๓ แบบ คือ ต้นตำรับ, มิโซะ (น้าซุปใส แบบเกาหลี), แกงกะหรี่

นั่งสักพัก ชั่งใจอยู่ว่าจะทานหมด หรือไม่ แต่ด้วยความหิว จึงสั่งหม้อไฟ Budae Jjigae Seafood บูเดจิเกรสดั้งเดิม ทะเล  ในใบสั่งอาหาร ลูกค้าสามารถเลือก ระดับความเผ็ดได้ ซึ่งมีความเผ็ดทั้งหมด ๕ ระดับ คือ ระดับอนุบาล, มัธยม, มหาลัย, ป.โท, ป.เอก สำหรับวันนี้ ผมเลือกเป็น ระดับความเผ็ดมัธยม เพราะเกรงว่า หากสูงกว่านี้ อาจจะได้เพียงชม มากกว่ากิน และลูกค้าสามารถเปลี่ยนเครื่องได้ หรือเพิ่มรายการอื่นๆ ในหม้อได้   ผมก็เลือกตามชุดไว้ก่อน หากไม่อิ่ม ก็คงจะเพิ่มภายหลัง

หม้อไฟ Budae Jjigae Seafood บูเดจิเกรสดั้งเดิม ทะเล

ครบเครื่องทางทะเล เลยครับ มาถึงก็ตั้งไฟ ไว้ที่เบอร์ ๗ แล้วรอเวลา สักพักเดียว น้ำเริ่มเดือด ทุกอย่างเริ่มร้อน และเข้าที่ คนในหม้อสักเล็กน้อย กลิ่นซุปโชยออกมาเบาๆ  กลิ่นจะออกแนวเผ็ดร้อนพอสมควร แต่เมื่อชิมแล้ว ก็รู้ว่าไม่เผ็ดร้อนแรงมากนัก

ถ่ายรูป ระหว่างรอเดือด

ด้านในเป็นเส้นมาม่าก้อนใหญ่ แต่เป็นในแนวเกาหลี คือเส้นใหญ่ออกสีขาว ไม่เข้มเหมือนมาม่าบ้านเรา  ตอนแรก คาดว่าจะไม่หมด แต่ด้วยความตั้งใจจริง ก็เรียบร้อย ครับ 😄  ระหว่างรับประทานไปสักพัก นึกขึ้นได้ ว่าลืมเก็บภาพ ก็เก็บภาพสักหน่อย แต่ในภาพเหลือครึ่งนึง เสียแล้ว

ตักใส่ถ้วย ลดความร้อนลงบ้าง
เมื่อทุกอย่างเข้ากัน

ระหว่างรับประทาน หากต้องการเพิ่มรายการอื่นๆ เป็นพิเศษ สามารถสั่งได้ เหมือนทานสุกี้ มีดังนี้   ปลาแผ่น, ต้นหอมญี่ปุ่น, เบคอน, หมูสไลซ์, เต้าหู้ปลา, แครอท, ไข่ต้ม กะหล่ำปลี, เส้นรามยอนเหนียวนุ่ม, เส้นต๊อกป๊อกกี, ปลาหมึก, หอย, กุ้ง และอื่นๆ   

เท่าที่ประเมินหม้อไฟเกาหลี เหมาะสำหรับการรับประทาน ๒-๓ ท่าน โดย ๒ ท่าน ก็อิ่มมากหน่อย และถ้ามา ๓ ท่านไม่ทานเยอะนัก ก็จะพอดี   สำหรับอาหารจานเดียว ก็มี  ไข่ม้วนไส้โมจิชีส สำหรับท่านที่ชอบทานชีสแบบหนึบๆ , ไก่คาราเกะซอสน้ำผึ้ง, ต๊อกโปกิ (ทำจากแป้งข้าวเจ้าเหนียวหนึบๆ ต้มสุกและปรุงรสด้วยซอสพริกเกาหลี) สำหรับอาหารทานเล่น มี ยำเฟรนซ์ฟรายส์ และ เฟรนช์ฟรายส์ทอด มีซอส ๓ แบบ คือ ซอสเผ็ด, ซอสน้ำผึ้ง, ชีส

สำหรับอาหารหวาน มี ไอศกรีม Soft Cream ในสไตล์เกาหลี  ทำจากนมวัวสดแท้  จึงทำให้ไอศกรีมของทางร้าน มีความเนียนนุ่ม รสละมุนลิ้น มีหลายรสชาติ เช่น ซอฟท์ครีมน้ำผึ้ง, ซอฟท์ครีม Salt caramel, ซอฟท์ครีมสตรอเบอร์รี่, ซอฟท์ครีมช๊อกโกแลต, ซอฟท์ครีม Kinako+Caramel, ซอฟท์ครีม Anko+Matcha

สำหรับผม หม้อเดียว คนเดียว ก็เต็มกลืน ไม่สามารถรองรับอย่างอื่น เพิ่มเติมได้ ราคาหม้อไฟเกาหลี อยู่ที่หม้อละ ๒๓๙-๒๘๙ บาท ขึ้นอยู่กับลูกค้าเลือกรูปแบบ  ร้าน Jagiya เปิดบริการ สำหรับวันจันทร์ - ศุกร์ เวลาตั้งแต่ ๑๕:๐๐ - ๒๒:๐๐ น. (บ่ายสามโมงถึงสี่ทุ่ม) และวันเสาร์,อาทิตย์ เปิดบริการตั่งแต่ ๑๒:๐๐ - ๒๒:๐๐ น.

พิกัด GPS : 13.282116, 100.929374

การเดินทาง

จากกรุงเทพฯ เข้าสู่ถนนวงแหวนรอบนอก เส้นทางหลวงหมายเลข ๙ มุ่งหน้าไป เส้นทาง กรุงเทพ-ชลบุรี (สายใหม่)  ทางหลวงหมายเลข ๗ หรือ Motor Way  เป็นเส้นทางเดียวกับทางไป สนามบินสุวรรณภูมิ   ถ้าเดินทางมาจาก บางปะอิน เมื่อชำระค่าบริการที่ด่านทับช้าง สัก ๒ กิโลเมตรก็จะเลี้ยวซ้ายเข้า Motor Way ได้เลย

หากมาทาง พระราม๒ ก่อนจะถึง ด่านทับช้าง ก็จะมีป้ายบอกทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ

หลังจากเข้าเส้นทาง Motor Way แล้ว มุ่งหน้ามาทางสนามบินสุวรรณภูมิ ขับตรงไป รับบัตรที่ ด่านลาดกระบัง แล้วมาชำระเงินที่ด่านพานทอง สำหรับค่าบริการรถ ๔ ล้อ อยู่ที่ ๖๐ บาท/คัน  ขับตามเส้นทางหลวงหมายเลข ๗ ไปอีก ๑๓.๕ กิโลเมตร ใช้ทางออก บางแสน ชลบุรี แล้วมุ่งหน้าไปทาง บางแสน ชลบุรี เมื่อออกมาแล้ว ขับชิดขวา แล้วกลับรถใต้สะพาน ที่จุดกลับรถ จุดแรก ทันที

กลับรถเสร็จ ชิดซ้าย ทันที เพื่อเลี้ยวซ้าย เข้าถนน คู่กับถนนข้าวหลาม ขับตามเส้นทางไป ๙.๕ กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถนนสุขุมวิท ขับไป ๘๕๐ เมตร พบศูนย์ควบคุมการจราจรสถานีตำรวจภูธรแสนสุข ทางซ้ายมือ บริเวณนั้นเป็นสามแยกเลี้ยวขวา เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข ๓๑๓๗ ขับไป ๑.๒ กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนบางแสนสาย ๔ ใต้ มา ๕๕๐ เมตร ร้าน Jagiya อยู่ทางซ้ายมือ

แผนที่




หลังจากอิ่มท้องก็ แวะเข้าพักที่ โรงแรมเคปทาวน์ ศรีราชา เรสซิเดนซ์ (Capetown Sriracha Residence)


ขอบคุณ ครับ 😄


สำหรับท่านที่สนใจติดต่อ หรือ รับข้อมูลข่าวสารจากทางร้าน สามารถติดต่อได้ ที่  094 565 4162
www.facebook.com/Jagiya-จากิยาหม้อไฟเกาหลี-837308606365203/   และ ทางร้านมีเปิดรับ เฟรนไชส์


เที่ยวไหนดี? ... ชลบุรี ศรีราชา โรงแรม เคปทาวน์ ศรีราชา เรสซิเดนซ์ (Capetown Sriracha Residence)

เที่ยวไหนดี? ... ชลบุรี ศรีราชา โรงแรม เคปทาวน์ ศรีราชา เรสซิเดนซ์ (Capetown Sriracha Residence)  😄


เดินทางจาก บางแสน  แวะรับประทานอาหารที่  Jagiya หม้อไฟเกาหลี  ก็เดินทางมาพัก ที่ เคปทาวน์ ศรีราชา เรสซิเดนซ์ (Capetown Sriracha Residence) เป็นคอนโดมิเนียมที่ค่อนข้างใกล้ทะเลพอสมควร เคปทาวน์ ศรีราชา ตั้งอยู่ที่ ๔๓ หมู่ ซอยบ้านไร่ ๔ ถนนเทศบาล๑  อ. ศรีราชา จ.ชลบุรี  เป็นโรงแรมในรูปแบบ คอนโดมิเนียมบริการเข้าพัก และหากลูกค้าท่านใด สนใจก็สามารถติดต่อขอซื้อยูนิต ได้  เป็นโรงแรมที่เพิ่งเปิดมาไม่นาน (เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๐)

การเดินทาง

จากกรุงเทพฯ เข้าสู่ถนนวงแหวนรอบนอก เส้นทางหลวงหมายเลข ๙ มุ่งหน้าไป เส้นทาง กรุงเทพ-ชลบุรี (สายใหม่)  ทางหลวงหมายเลข ๗ หรือ Motor Way  เป็นเส้นทางเดียวกับทางไป สนามบินสุวรรณภูมิ   ถ้าเดินทางมาจาก บางปะอิน เมื่อชำระค่าบริการที่ด่านทับช้าง สัก ๒ กิโลเมตรก็จะเลี้ยวซ้ายเข้า Motor Way ได้เลย
หากมาทาง พระราม๒ ก่อนจะถึง ด่านทับช้าง ก็จะมีป้ายบอกทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ
หลังจากเข้าเส้นทาง Motor Way แล้ว มุ่งหน้ามาทางสนามบินสุวรรณภูมิ ขับตรงไป รับบัตรที่ ด่านลาดกระบัง แล้วมาชำระเงินที่ด่านพานทอง สำหรับค่าบริการรถ ๔ ล้อ อยู่ที่ ๖๐ บาท/คัน  ขับตามเส้นทางหลวงหมายเลข ๗ ไปอีก ๑๓.๕ กิโลเมตร ใช้ทางออก บางแสน ชลบุรี แล้วมุ่งหน้าไปทาง บางแสน ชลบุรี เมื่อออกมาแล้ว ขับชิดขวา แล้วกลับรถใต้สะพาน ที่จุดกลับรถ จุดแรก ทันที
กลับรถเสร็จ ชิดซ้าย ทันที เพื่อเลี้ยวซ้าย เข้าถนน คู่กับถนนข้าวหลาม ขับตามเส้นทางไป ๙.๕ กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถนนสุขุมวิท ขับไป ๑๒.๕ กิโลเมตร ผ่านทางเข้าวัดพุทธโคดม ผ่านสี่แยกไฟแดง จะมีปั้มปตท. ทางขวามือ แล้วกลับรถ ที่จุดกลับรถแรก
กลับรถแล้ว ชิดซ้าย เลี้ยวซ้ายปากซอยที่ ๔ ขับตรงไปตามทาง สังเกตุป้ายร้านอาหาร ครัวบ้านกลางทะเล เลี้ยวขวา เข้าไปในซอย ๗๐ เมตร  โรงแรมอยู่ทางด้านขวามือ

ทางเข้าเคปทาวน์ ศรีราชา เรสซิเดนซ์ (Capetown Sriracha Residence)
พิกัด GPS  :  13.159156, 100.915272

แผนที่ 



ห้องพักทั้งหมด มี ๔ แบบ ดังนี้

๑. ห้องแบบสตูดิโอ (Studio)  จะเห็นวิวเมือง พื้นที่ใช้สอย ๓๓ ตารางเมตร  มีเตียงใหญ่หนึ่งเตียง มีเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น กาต้มน้ำ ไมโครเวฟ เตาไฟฟ้า อุปกรณ์ จาน ชาม ช้อน ส้อม ครบ พร้อมให้บริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
๒. ห้องแบบดีลักซ์ วิวทะเล (Deluxe Sea View)  (อันนี้เป็นแบบที่ผมเข้าพัก) ภายในห้องทุกด้าน จะเห็นทะเล ไม่ว่าจะเป็นห้องรับแขก ห้องน้ำ หรือห้องนอน พื้นที่ใช้สอย ๕๑ ตารางเมตร มีเตียงใหญ่ หนึ่งเตียง
๓. ห้องออนเซนสวีท (Onsen Suite) วิวทะเล  พื้นที่ใช้สอย ๕๐ ตารางเมตร มีพื้นที่ห้องรับแขก และห้องนอนแยกจากกัน  ลักษณะพิเศษของห้องนี้ คือ เมื่อเข้ามาให้องแล้ว จะพบ อ่างอาบน้ำแบบจากุซซี่ (อ่างอาบน้ำ/แช่น้ำ ที่มีระบบน้ำวนและสร้างแรงดันได้ภายในอ่าง)   ตั้งอยู่ด้านนอก ก่อนเข้าภายในห้องอีกชั้นหนึ่ง  พื้นที่ส่วนนี้ ตกแต่งให้ดูเหมือน อาบน้ำในบ่อน้ำแร่ธรรมชาติ  ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ แบบไม่มีหลังคา
๔. ห้องสำหรับครอบครัว 2 ห้องนอน (Family 2-Bedroom)  วิวภายในห้องเป็นวิวเมือง พื้นที่การใช้สอย ๘๙ ตารางเมตร มี ๒ ห้องนอน ๒ ห้องน้ำ มีสองเตียง คือ เตียงควีนไซส์ และ เตียงคิงไซส์  มีพื้นที่ส่วนกลางเป็นห้องรับแขก และรับประทานอาหาร

หลังจาก แจ้งเข้าพัก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้ห้องพักอยู่ชั้น ๔ ภายในห้องมีการแบ่งพื้นที่ เป็นสัดเป็นส่วน มีพื้นที่สำหรับรับแขกหรือนั่งเล่น  หน้าต่างและประตูกระจกทุกบาน สามารเห็นวิวทะเลได้หมด 

พื้นที่รับแขก

ภายในห้องนอน มีระเบียงด้านนอก สามารถออกไปเดินเล่นได้ ในช่วงหัวค่ำ หรือยามเช้า (เพราะช่วงนั้นจะไม่ค่อยร้อนมาก) เครื่องปรับอากาศมีทั้งภายในห้องนอน และห้องรับแขก

ตู้เสื้อผ้าและห้องนอน

สำหรับท่านที่ต้องการจะอุ่นอาหาร หรือประกอบอาหารเล็กๆ  ภายในห้องก็มีเครื่องใช้ไฟฟ้า และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ  อยู่ครบครัน 

พื้นที่ครัว

ห้องน้ำมีการแบ่งพื้นที่เป็นพื้นที่เปียกและแห้ง  มีอ่างอาบน้ำ ขนาดห้องที่ผมเข้าพัก อ่างอาบน้ำ น่าจะเหมาะสำหรับ ผู้หญิงรูปร่างเล็กสักหน่อย จะนอนแช่ได้สบาย  ส่วนผู้ชายที่ตัวใหญ่นิดนึง ก็อาจจะรู้สึกว่าเล็กไปหน่อย ครับ     ห้องน้ำ เปิดเข้าได้ทั้งจากห้องนอน และพื้นที่รับแขก

ห้องน้ำกับห้องนอน
ในระหว่างที่นอนแช่น้ำ ในยามเย็น ก็เก็บบรรยากาศภาพพระอาทิตย์เริ่มตกดิน มาฝาก ครับ ตึกที่อยู่ในภาพ เป็น Sourire Beach Front Sriracha นับว่าเป็นสถานที่น่าพักอีกแห่ง วิวที่ห้องนั้น จะเห็นทะเลใกล้กว่า  สำหรับอาหารเย็น ก็ฝากท้องไว้ที่ ร้านอาหาร 45 E-SARN Cuisien และ มิ้อกลางวันก่อนกลับบ้านก็แวะรับประทานอาหารที่   ร้านอาหารครัวบ้านกลางทะเล  สักหน่อย

วิวทะเลจากห้องอาบน้ำ

หลับฝันดี ครับ 

ขอบคุณ  ครับ 😄

สำหรับท่านที่ สนใจรายละเอียดห้องพักเพิ่มเติม หรือ จองห้องพัก สามารถ กดลิงค์ ด้านล่าง ได้ ครับ

       



หรือหากท่าน สนใจ ห้องพักในแนว Sea view ก็มีที่ โรงแรมคาริน ในศรีราชา อีกแห่ง ครับ

เที่ยวไหนดี? ... ชลบุรี ศรีราชา โรงแรมคาริน KARIN HOTEL & SERVICED APARTMENT

เที่ยวไหนดี? ... ชลบุรี ศรีราชา โรงแรมคาริน KARIN HOTEL  & SERVICED APARTMENT  😄

เริ่มต้นวันเสาร์ ต้นเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๐  มีเหตุที่จะต้องไปทำธุระ ใน อ.ศรีราชา เมื่อไปแล้ว ก็คิดจะค้างสักคืนหนึ่ง ติดต่อที่พัก ที่เคยเข้าพัก ก็ไม่ว่าง จึงต้องหาที่ใหม่ และแล้ว... ก็ได้ ที่พักในวันนี้  อยู่ในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

พิกัด GPS :  13.178137, 100.928292


แผนที่




การเดินทาง

จากกรุงเทพฯ เข้าสู่ถนนวงแหวนรอบนอก เส้นทางหลวงหมายเลข ๙ มุ่งหน้าไป เส้นทาง กรุงเทพ-ชลบุรี (สายใหม่)  ทางหลวงหมายเลข ๗ หรือ Motor Way  เป็นเส้นทางเดียวกับทางไป สนามบินสุวรรณภูมิ   ถ้าเดินทางมาจาก บางปะอิน เมื่อชำระค่าบริการที่ด่านทับช้าง สัก ๒ กิโลเมตรก็จะเลี้ยวซ้ายเข้า Motor Way ได้เลย

หากมาทาง พระราม๒ ก่อนจะถึง ด่านทับช้าง ก็จะมีป้ายบอกทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ

หลังจากเข้าเส้นทาง Motor Way แล้ว มุ่งหน้ามาทางสนามบินสุวรรณภูมิ ขับตรงไป รับบัตรที่ ด่านลาดกระบัง แล้วมาชำระเงินที่ด่านพานทอง สำหรับค่าบริการรถ ๔ ล้อ อยู่ที่ ๖๐ บาท/คัน  ขับตามเส้นทางหลวงหมายเลข ๗ ไปอีก ๑๓.๕ กิโลเมตร ใช้ทางออก บางแสน ชลบุรี แล้วมุ่งหน้าไปทาง บางแสน ชลบุรี เมื่อออกมาแล้ว ขับชิดขวา แล้วกลับรถใต้สะพาน ที่จุดกลับรถ จุดแรก ทันที

กลับรถเสร็จ ชิดซ้าย ทันที เพื่อเลี้ยวซ้าย เข้าถนน คู่กับถนนข้าวหลาม ขับตามเส้นทางไป ๙.๕ กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถนนสุขุมวิท ขับไป ๘.๗ กิโลเมตร ถึงสามแยกดาราสมุทร เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเจิมจอมพล เข้ามาประมาณ ๔๕๐ เมตร เลี้ยวขวาเข้าซอย แหลมเกตุ ๑๑๐ เมตร โรงแรมคาริน อยู่ทางขวามือ


ทางเข้าโรงแรม คาริน โฮเต็ล แอนด์ เซอร์วิซ อพาร์ตเมนต์
ที่โรงแรม คาริน โฮเต็ล แอนด์ เซอร์วิซ อพาร์ตเมนต์ มี สองอาคาร สำหรับอาคารหน้า จะเป็นห้อง Studio และ ด้านล่างของอาคารหน้า มีร้าน Family mart เปิด ๒๔ ชม. ซึ่งสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวในการจับจ่ายซื้อสิ่งของที่ไม่ได้นำติดตัวมา

Family mart
เข้าพักเวลาประมาณเกือบบ่ายโมง ลองเข้าไปติดต่อดู ว่าสามารถเข้าพักก่อนเวลาได้ไหม?   พอเข้าไปรู้สึกแปลกๆ เล็กน้อย เพราะได้รับอัธยาศัยไมตรี ต้อนรับในแบบญี่ปุ่น  คาริน โฮเต็ล แอนด์ เซอร์วิซ อพาร์ตเมนต์ เพิ่งเปิดในช่วงเดิอน กุมภาพันธ์ - มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๐  ประมาณ ๓ เดือน นับว่าเป็นโรงแรมที่ใหม่มาก  โดยส่วนใหญ่ ที่พักแนวคอนโดมิเนียม ที่เป็นอาคารใหม่ มักจะมีการขายยูนิต สำหรับผู้ที่สนใจ  สำหรับที่นี่ เป็น Service Apartment (คอนโดมิเนียมแบบเข้าพัก) อย่างเดียว เพื่อสำหรับรองรับผู้ที่สนใจมาพัก  คาดว่า ชาวญี่ปุ่น น่าจะนิยมมาพักที่นี้ นะครับ  เพราะพนักงานส่วนใหญ่ พูดญี่ปุ่นได้  

เอกสารโบชัวร์ เป็นภาษาญี่ปุ่น
มีขนมญี่ปุ่น  ให้ชิม 

สำหรับห้องที่ผมจองไว้ เป็นห้องสตูดิโอ วิวทะเล (Studio Sea View) ว่าง ครับ เลยได้เข้าพักก่อนเวลาเล็กน้อย อยู่ชั้น ๗  จากห้องชั้น ๗ จะอยู่สูงกว่าอาคารด้านหน้า ทำให้มองเห็นวิวทะเลได้ ชัดเจน และชั้นบนสุดของอาคารด้านหน้า เป็นสระว่ายน้ำ  ช่วงบ่ายเกือบค่ำ เห็นครอบครัวที่มีเด็กโตมาว่ายน้ำเล่นกัน   ที่ห้องนี้ มีระเบียงสำหรับออกไปยืนรับอากาศภายนอก และมีที่เขี่ยบุหรี่ ไว้ด้านนอก สำหรับผู้ที่ต้องการสูบบุหรี่ โดยไม่ให้กลิ่นบุหรี่เข้ามารบกวน ภายในห้อง  ทั้งหน้าต่างและประตูกระจกตรงระเบียงสามารถเห็น วิวทะเล ชัดเจน   พื้นที่ภายในห้อง ๓๑ ตารางเมตร  มีเตียงขนาดควีนไซส์

ถ่ายภาพแบบพาโนรามา ลักษณะภาพอาจจะเพี้ยนนิดนึง
วิวภายนอก เมื่อดูจากในห้อง

เตียงควีนไซส์ และตู้เสื้อผ้า


สิ่งอำนวยความสะดวก มีโทรทัศน์ รายการญี่ปุ่น ทั้งแบบญี่ปุ่นแท้ และ ญี่ปุ่นที่พากย์ไทย แยกกับรายการที่ออกอากาศภายในประเทศ  ห้องจัดเป็นระเบียบได้ดี ทุกพื้นที่เน้นประโยชน์ใช้สอยสูงสุด ตามแบบญี่ปุ่น  ภายในตู้เสื้อผ้ามีชุดลำลองแบบญี่ปุ่นอยู่ด้วย..

มีโต๊ะทำงานที่ เมื่อนั่งทำงานเห็นวิวทะเล ชัดเจน  ช่วงที่แดดเริ่มอ่อนแรง ไม่แสบตามาก ก็ดูเพลินๆ เหมือนกัน ครับ กระจกภายในห้องมีการกรองแสงในระดับหนึ่ง และลดความร้อนจากภายนอกลงได้บ้าง  ด้านหลังโต๊ะทำงาน เป็นตู้อเนกประสงค์ ภายในตู้ แบ่งเป็นช่องเล็กๆ  สามารถเก็บของได้เยอะมาก

โต๊ะทำงาน

ห้องน้ำ มีพื้นที่พอเหมาะ ภายในห้องน้ำมีช่องเล็กอยู่หลายช่องให้สามารถวางของใช้ส่วนตัว ได้เต็มที่ 😄  ที่อาบน้ำเป็นแบบฝักบัว มีให้เลือกแบบน้ำเย็น (น้ำที่อุณหภูมิปกติ),น้ำร้อน และน้ำอุ่น  ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ ว่าชอบแนวไหน  ด้านหลังกระจกส่องหน้า ก็เป็นตู้สำหรับวางเครื่องสำอางขนาดกลางได้ มีหลายชั้น ตามความสูงของตู้   สำหรับชักโครก เป็นแบบที่ มีระบบล้างก้น แต่เป็นแบบระบบกดหรือผลัก  โดยไม่ต้องใช้สายฉีด  เหมือนกับที่ญี่ปุ่นเลย ครับ    สำหรับที่ผมเคยไปแบบชักโครกที่เป็นระบบไฟฟ้า ก็ที่โรงแรม S.Swiss Hotel Ratchaburi อ.เมือง จ.ราชบุรี โรงแรมนี้ ออกแนวเหมือนเราได้ไปอยู่ที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์   พื้นที่ในห้องน้ำก็จัดว่าพอเหมาะ พอควร  คือ ยืนอาบ ทำธุระส่วนตัว ก็สบายๆ


ห้องน้ำ


ชักโครก (สังเกตุ ปุ่มเล็กๆ ข้างฝา)

ตระเตรียมเก็บสัมภาระ และจัดของให้เข้าที่เข้าทาง ออกไปทำธุระที่นัดหมายไว้  เมื่อกลับเข้า ก็ได้เห็นบรรยากาศ พระอาทิตย์ตกดิน  นั่งที่เตียง ก็สามารถสัมผัสบรรยากาศได้  นั่งมองดวงอาทิตย์อัสดง จนลับขอบฟ้า


มุมภาพจากเตียงนอน
พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน

อีกสักพัก ก็คงลับขอบฟ้า

สำหรับเตียงที่ คาริน โฮเต็ล แอนด์ เซอร์วิซ อพาร์ตเมนต์ (KARIN HOTEL & SERVICED APARTMENT)  จะต่างกับที่อื่น โดยทั่วไป ตามโรงแรมจะเป็นฟูกหนา ประมาณ ๑๐ นิ้ว  แต่ที่นี่เป็นฟูกบาง ประมาณ ๑๐-๑๕ ซม. (น่าจะได้)  และบนฟูกก็มีปุ่มตลอดพื้นผิว ทำให้การนอน เหมือนเป็นการนวดไปตัว  สำหรับคนที่ชอบนอนพลิกไป พลิกมา

ที่ คาริน โฮเต็ล แอนด์ เซอร์วิซ อพาร์ตเมนต์ มีห้อง ๔ แบบ คือ
๑. ห้องสตูดิโอ (Studio) จะเห็นวิวทะเล (บางส่วน) พื้นที่ใช้สอยภายในห้อง ขนาด ๓๑ ตร.ม. ภายในห้องมี ๑ เตียงควีนไซส์
๒. ห้องสตูดิโอ วิวทะเล (Studio Sea View) พื้นที่ใช้สอยเท่ากับห้องสตูดิโอ (Studio) ต่างกันที่วิว เห็นเต็มๆ กว่า  มีเตียงขนาดควีนไซส์ เหมือนกัน
๓. สตูดิโอ อพาร์ตเมนต์ (Studio Apartment)
๔. ซูพีเรีย อพาร์ตเมนต์ (Superior Apartment)

สำหรับราคาเริ่มต้น ของห้องพัก อยู่ที่ หนึ่งพันกว่าบาทต้นๆ  สามารถเลือกเข้าพักแบบไม่รับอาหารเช้าได้ กรณีสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ทานอาหารเช้า ก็จะเหลือแต่เฉพาะค่าห้อง

เครื่องใช้ไฟฟ้า ภายในห้อง มีครบเหมือนกับว่า เป็นคอนโดมิเนียม ของตนเอง มีทั้งกาน้ำร้อนไฟฟ้า, ไมโครเวฟ, ชุดจาน ชาม ช้อน ส้อม   หาก จะอุ่นอาหารเล็กๆ น้อยๆ ก็สะดวกมาก ครับ

ช่วงกลางคืน เปิดหน้าต่างเพื่อฟังเสียงคลื่น  ผลปรากฎว่าแทบไม่ได้ยิน อาจจะเพราะตึกอยู่ไกลทะเลพอสมควร  แล้วก็หลับไป... หนึ่งคืน  ตื่นขึ้นมารับเช้าวันใหม่ รับอากาศสดชื่น และสิ่งดีๆ  เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนเที่ยงวัน ก็ถึงเวลาเดินทางกลับ   ก็จากกัน ผมมีบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดิน ที่ถ่ายจากห้องพักนี้ มาให้ชม เป็นวีดิโอ แต่ปรับความเร็ว เป็น 16x  ครับ 




รุ่งเช้าวันใหม่ ขากลับเข้ากรุงเทพฯ  แวะ วัดเขาดิน กัน นะครับ

ขอบคุณ ครับ 😄



สำหรับท่านที่สนใจ หาที่พักใน ศรีราชา ในแนว Sea view ก็มี ที่ โรงแรม Sourire Beach Front Sriracha
หรือ เคปทาวน์ ศรีราชา เรสซิเดนซ์ (Capetown Sriracha Residence)

หรือ รายละเอียดห้องพักอื่นๆ  ใน อ.ศรีราชา สามารถ กดลิงค์ ด้านล่าง ได้ ครับ

       

เที่ยวไหนดี? ...ราชบุรี ดำเนินสะดวก ร้านกาแฟ Idyll ไอเดิล และ กินข้าว ที่ ร้านอาหารแพริมคลอง

เที่ยวไหนดี? ...ราชบุรี ดำเนินสะดวก ร้านกาแฟ Idyll ไอเดิล และ  กินข้าว ที่ ร้านอาหารแพริมคลอง  😄


หลังจาก ออกจาก ตลาดเหล่าตั๊กลัก  ก็แวะหา ร้านกาแฟ ในดำเนินสะดวก โดยเน้นที่ เป็นบรรยากาศแบบธรรมชาติ  ร้านนี้ อยู่ไม่ไกล จากตลาดน้ำดำเนินสะดวก ครับ   สำหรับเส้นทางการเดินรถ มีดังนี้
จากปากทาง ตลาดเหล่าตั๊กลัก เลี้ยวขวาไป ๓๕๐ เมตร เลี้ยวซ้ายไป ๒๔๐ เมตร ขับตรงไป ๑๕๐ เมตร เลี้ยวขวา ๔๐๐ เมตร เลี้ยวขวา ๓๐๐ เมตร (จะข้ามคลองขุดลัดราชบุรี)  และเลี้ยว ๒ กิโลเมตร จะถึงถนนใหญ่ ทางหลวงหมายเลข ๓๒๕ เลี้ยวซ้าย ไป ๑.๓ กิโลเมตร ระหว่างทางจะผ่าน ตลาดโลตัว ดำเนินสะดวก  

ร้าน Idyell ไอเดิล


พิกัด GPS  :  13.541105, 99.964175

แผนที่ 




หน้าร้านตกแต่งร่มรื่น ร้านอยู่ติดถนนใหญ่ ทางหลวงหมายเลข ๓๒๕ สามารถจอดรถริมทางได้เลย ครับ  ภายในร้านตกแต่งส่วนใหญ่จะเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้ ยุคเก่า ของประดับบางชิ้น เป็นของย้อนกลับไปประมาณ ๓๐-๔๐ ปีได้  บางชิ้นก็ดูเก่ากว่านั้น 

จุดรับออเดอร์

ลูกค้า (คุณหมี) ขาประจำ ดูแล้วน่าจะนั่งนานจนหลับ...😪
ช่วงเช้าถึงประมาณบ่ายต้นๆ  ด้านหลังร้านจะเหมาะสำหรับนั่งพักผ่อน ด้วยเพราะว่าแดดช่วงเช้า จะสาดมาแนวทางหน้าร้าน  วิวด้านหลังของร้าน เป็นร่องสวน นั่งเพลินๆ จิบกาแฟ ลมโชยนิดๆ มันก็ได้ความสุขใจเล็กๆ เหมือนกัน นะครับ

จุดนั่งหลังร้าน (ช่วงบ่ายๆ)

ด้านหลังร้าน  (ช่วงบ่าย)
ด้านหลังร้าน สุดทาง สามารถอ้อมไปหน้าร้าน ได้ 

ที่นี่ มีหลากหลายเมนู  แต่เมนูที่ สะดุด ตา และทดลองสั่ง คือ เอสเพรสโซ่ลาวา เป็นเอสเพรสโซ่ปั่น แบบหนึ่ง ครับ


ที่นั่งด้านหน้าร้าน

และแล้ว เอสเพรสโซ่ลาวา ก็มาถึง ดูเผินๆ เหมือน เอสเพรสโซ่ปั่นทั่วๆ ไป  แต่เมื่อผมชิม จึงเข้าใจถึงความแตกต่าง  พอคำแรกที่ชิม ค่อนข้างขม แต่ดื่มไปเรื่อยๆ เมื่อปริมาณเหลือค่อนแก้ว จะออกรสหวานเพิ่มขึ้น  ทั้งนี้ เนื่องจาก เอสเพรสโซ่ลาวา นี้  เป็นการปั่นน้ำแข็งและนมเข้าด้วยกัน เมื่อเสร็จแล้ว จึงใส่ถ้วย แล้วราดตามด้วยเอสเพรสโซ่ร้อน  ดังนั้น รสชาติแรกๆ จึงออกขม เข้มข้น อยู่หน่อย หาก คนเข้าด้วยกันเล็กน้อยก็จะลดความเข้มของ คำแรกลงได้บ้าง ครับ 

เอสเพรสโซ่ ลาวา

และอีกแก้วที่ตามมา คือ คาปูชิโน่ปั่น จึงวางมาเทียบกัน ให้ชม ครับ  น่าจะพอมองออกนะครับ ว่าแก้วไหน เป็น คาปูชิโน่ แก้วไหนเป็น เอสเพรสโซ่  ในภาพ ๒ แก้ว พอจะเห็นส่วนลาวา ของ เอสเพรสโซ่ลาวา อยู่บ้าง 😄

เอสเพรสโซ่ลาวา กับ คาปูชิโน่ปั่น 
สำหรับรสชาติ ของ คาปูชิโน่ ปั่น จัดว่าเป็นกาแฟที่กลมกล่อม ตามสไตล์ของคาปูชิโน่ ครับ  ไม่ถือว่าเข้มมาก  (บางร้าน จะค่อนข้างเข้ม)

กาแฟ กับ ต้นไม่
นั่งด้านข้างร้าน ดื่มกาแฟ จนค่อนแก้ว  แล้วก็เดินมาเก็บภาพ ภายในร้าน  และรอบๆ ร้าน อีก ครั้ง

ตกแต่งภายในร้าน

บริเวณหน้าร้าน มีอุปกรณ์เล่น สำหรับเด็ก

พี่หมี ก็ดื่มด้วย 

หาก นักท่องเที่ยว ที่มาเที่ยวดำเนินสะดวก และ สนใจที่จะมาเก็บภาพในบรรยากาศเก่าๆ  สำหรับ ที่ร้านกาแฟ Idyll (ไอเดิล) แห่งนี้ ก็นับว่าเหมาะ

หลังจาก กลับไปเก็บ สัมภาระ ที่ บ้านสายน้ำ รีสอร์ท เป็นที่เรียบร้อย แล้ว ก็ถึงเวลารับประทานอาหารกลางวัน  ผมไปที่ ร้านอาหารแพริมคลอง อยู่ไม่ไกล จากร้านกาแฟ Idyll และ บ้านสายน้ำ รีสอร์ท  ถือว่าอยู่ระหว่างทางของสองสถานที่ ก็ว่าได้

พิกัด GPS : 13.523009, 99.974293

แผนที่




การเดินทาง

จากร้านกาแฟ Idyll (ไอเดิล) ออกจากร้านกาแฟไอเดิล ตรงไป ๑ กิโลเตร กลับรถ แล้วมุ่งไป ๒.๕ กิโลเมตร (หลังจากลงสะพาน ให้ชิดซ้าย) เลี้ยวซ้ายที่สามแยก ๓๕๐ เมตร (ผ่านร้าน เฮียวง่วนฮวด) จะพบร้านทางด้านขวามือ

ออกจาก  บ้านสายน้ำ รีสอร์ท  ตรงตามเส้นทาง ผ่านวัดพิทักษ์เทพาวาส (อยู่ซ้ายมือ) แล้วตามเส้นทางจนออกถนนใหญ่ (ทางหลวงหมายเลข ๓๒๕) ขับไป ๙๐๐ เมตร กลับรถ แล้วมุ่งตรงไป ๒.๔ กิโลเมตร
ผ่านสามแยกไฟแดง แล้วเบี่ยงซ้าย กลับรถใต้สะพาน  ชิดซ้าย พ้นจากตีนสะพาน ๓๕๐ เมตร  เลี้ยวซ้ายที่สามแยก ๓๕๐ เมตร (ผ่านร้าน เฮียวง่วนฮวด) จะพบร้านทางด้านขวามือ

ร้านอาหารแพริมคลอง นี้ อยู่ในพื้นที่เดียวกับ ตาลหลวงรีสอร์ท มาถึงประมาณบ่ายสองเกือบ บ่ายสามโมง  ร้านยังไม่เปิด เป็นร้านอาหารสำหรับช่วงหัวค่ำ ถึงดึก ด้วยความใจดี ของแม่ค้า ซึ่งตอนนั้น มีอยู่ ๒ ท่าน  ก็เปิดร้าน รับออเดอร์   สำหรับอาหารที่สั่ง มีกุ้งอบวุ้นเส้น, ทอดมันปลา และโป๊ะแตก  อาหารเหมาะสำหรับนักดิ่ม ครับ คือรสชาติจะออกแนวกลมกล่อม รสจัดเล็กน้อย ถึงแม้เผ็ด เปรี้ยว แต่ก็เผ็ดอย่างเข้ากันได้ดี

กุ้งอบวุ้นเส้น

ทอดมันกุ้ง
อิ่มท้อง ก็ถึงเวลาเดินทางกลับ แล้ว ครับ ...

ขอบคุณ ครับ 😄


สำหรับท่านที่สนใจ หาที่พัก หรือ รายละเอียดห้องพัก ในดำเนืนสะดวก สามารถ กดลิงค์ ที่นี่ได้ ครับ

เที่ยวไหนดี? ...ราชบุรี ดำเนินสะดวก ขุนพิทักษ์ วัดพิทักษ์เทพาวาส

 เที่ยวไหนดี? ...ราชบุรี ดำเนินสะดวก ขุนพิทักษ์ วัดพิทักษ์เทพาวาส  😄

เดินทางออกจาก บ้านสายน้ำ รีสอร์ท ตรงออกมา ประมาณ ๑๐๐ เมตร เลี้ยวขวา ขับตามเส้นทางอีก ๘๐๐ เมตร จะพบวัดพิทักษ์เทพาวาส   สำหรับ วัดพิทักษ์เทพาวาส เดิมชื่อ "วัดตั้วฮ้ำ"  ตั้งอยู่เลขที่ ๙๑ หมู่ ๔ ตำบลขุนพิทักษ์ อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย พื้นที่วัดติดคลองขุนพิทักษ์  วัดแห่งนี้ได้รับอนุญาตให้สร้างวัดเมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๐๕ ซึ่งมี พระมหาเทพ ชินวโร เป็นประธานการสร้าง

ประตูหน้าวัด (อยู่หัวโค้ง)

พื้นที่ภายในวัดพิทักษ์เทพาวาส


และมีฝ่ายฆราวาส คือ นายผึ้ง แสงทอง, นายชวน วิสุวรรณ และนายปุ่ย วีระจินดา ได้ชักชวนชาวบ้านต่างๆ ที่มีจิตศรัทธาร่วมกันบริจาคทรัพย์ซื้อที่ดินสร้างวัดในตำบลขุนพิทักษ์ และมีผู้บริจาคบ้านทรงไทย ๓ หลัง ๆ ละ ๓ ห้อง เพื่อสร้างเป็นกุฏิให้พระสงฆ์ และสามเณรได้จำพรรษา


วิหาร และหอระฆัง
ต่อมาเจ้าคณะอำเภอดำเนินสะดวก ได้ส่งพระครูพิทักษ์เทพสิทธิ์ มาปกครองดูแลคณะสงฆ์ และดำเนินการก่อสร้างถาวรวัตถุ จนได้รับการประกาศให้ตั้งเป็นวัดพิทักษ์เทพาวาส เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๓ และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๖ ปัจจุบันมีพระครูสุธรรมรักษ์เป็นเจ้าอาวาส ปกครองดูแลคณะสงฆ์ และพัฒนาและและบูรณะวัดจนถึงปัจจุบัน

โบสถ์ วัดพิทักษ์เทพาวาส

มาถึงในช่วงเวลาสายๆ  โชคดีที่ ประตูโบสถ์เปิด ให้ผู้ที่มี จิตศรัทธา เข้ามากราบสักการะ 

ด้านหน้า โบสถ์  วัดพิทักษ์เทพาวาส

ศิลปะ บนประตูทางเข้าโบสถ์


วัดพิทักษ์เทพวาส มี หลวงพ่ออู่ทองเป็นพระประธานในโบสถ์ ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านในละแวกนี้  ทางวัดมีการจัดกิจกรรมบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน, งานประจำปี ปิดทองหลวงพ่ออู่ทอง, การสวดภาณยักษ์ และ การปฎิบัติธรรมบวชเนกขัมมจาริณี

หลวงพ่ออู่ทอง

สำหรับการสวดภาณยักษ์ เป็นพิธีกรรมที่มีความเชื่อกันว่า เป็นพิธีที่สามารถขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย และปกป้องคุ้มครองผู้สวดและผู้ฟังให้มีความเป็นอยู่สุขสวัสดี  เนื้อหาที่นำมาสวดนั้นมาจากอาฏานาฏิยสูตร ซึ่งเป็นตำนาน ว่า ขณะที่ ท้าวมหาราชทั้ง ๔ หมายถึง เทพผู้เป็นโลกบาล ๔ ทิศ เข้าเผ้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (สมเด็จพระพุทธโคดม)  ท้าวเวสวัณมหาราชได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้ามีความว่า
ยังคงมียักษ์บางจำพวก ที่ไม่เลื่อมใสในพระธรรมวินัย, ไม่ประพฤติในศีล ซึ่งหากยักษ์ที่ประพฤติธรรมอยู่ร่วมกับยักษ์เหล่านั้น อาจจะมีภยันตราย จึงขอให้พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงอนุเคราะห์ ทรงรับฟัง รักขา เครื่องรักษา หรือ ปริตร เครื่องป้องกันอันชื่อว่า อาฏานาฏิย เพื่อความเลื่อมใสของบรรดายักษ์ที่ประพฤติธรรม รักษาศีล เพื่อคุ้มครองรักษา เพื่อความไม่ถูกเบียดเบียน และ เพื่อความอยู่ผาสุกของภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาทั้งหลาย

หลังจากนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ทรงรับโดยอาการดุษณีภาพ (คือ นิ่ง)

ท้าวเวสวัณมหาราช ครั้นทราบการรับของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว จึงได้กล่าว อาฏานาฏิยรักขา หรือ อาฏานาฎิยปริตรนี้ ในเวลานั้น  ซึ่งเนื้อความ กล่าวสรรเสริญถึงพระพุทธเจ้า ๗ พระองค์ คือ

๑. พระวิปัสสีพุทธเจ้า ผู้มีจักษุ ผู้มีสิริ
๒. พระสิขีพุทธเจ้า ผู้มีปกติอนุเคราะห์แก่สัตว์ทั้งปวง
๓. พระเวสสภูพุทธเจ้า ผู้มีกิเลสอันล้างแล้ว ผู้มีตบะ
๔. พระกกุสันธพุทธเจ้า ผู้ย่ำยีเสียซึ่งมารและเสนา
๕. พระโกนาคมนพุทธเจ้า ผู้มีบาปอันลอยเสียแล้ว ผู้มีพรหมจรรย์อันอยู่จบแล้ว
๖. พระกัสสปพุทธเจ้า ผู้พ้นแล้วจากกิเลสทั้งปวง
๗. พระอังคีรสพุทธเจ้า ผู้เป็นโอรสแห่งศากยราชผู้มีสิริ

ท้าวเวสวัณมหาราช ได้มากราบทูลพระพุทธเจ้าแสดงข้อความทั้งหมด แก่พระผู้มีพระภาคเจ้า ขอให้พระองค์ได้ทรงรับเอาไว้เพื่อให้บรรดาภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาทั้งหลายทรงจำไปสาธยายในเวลาเข้าไปอยู่ในป่า และเมื่อสาธยายข้อความนี้ บรรดายักษ์ทั้งหลายที่อยู่ในป่า ซึ่งไม่เลื่อมใสในปาพจน์ คือในพระธรรมวินัยของพระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ฟังข้อความนี้ก็จะเลื่อมใส

ฉะนั้น การสาธยายข้อความนี้ จึงเป็นไปเพื่อความคุ้มครองรักษาป้องกันผู้สวดสาธยาย และผู้ฟัง จากบรรดายักษ์ทั้งทลาย

วันรุ่งขึ้นพระผู้มีพระภาคเจ้าก็ได้ทรงเล่าเรื่องที่มหาราชทั้ง ๔ ได้มาเฝ้าพร้อมทั้งบริวาร และท้าวเวสวัณมหาราชได้มากราบทูลข้อความนี้แก่พระองค์ และได้ทรงอนุญาตให้สาธยายพระสูตรนี้ได้

หลวงพ่ออู่ทอง พระประธานในโสถ์ วัดพิทักษ์เทพาวาส
ภาพทั่วไป ภายในโบสถ์ ในกรุงเทพ จะเป็นโบสถ์ ที่มีพระประธาน และมีการแบ่งพื้นที่ สำหรับสงฆ์ และ อุบาสก อุบาสิกา อย่างชัดเจน  โดยส่วนใหญ่ จะไม่ค่อยมีการปิดทองที่องค์พระประธาน  แต่ที่วัดพิทักษ์เทพาวาส แห่งนี้ มีการทำ บันได และชั้นลอยไม้ เพื่อให้ประชาชนทั่วไป ได้มาสักการะ ปิดทององค์หลวงพ่ออู่ทอง แบบใกล้ชิด

จิตรกรรมฝาผนังภายในโบสถ์ โดยรอบจะเขียนในเรื่อง ทศชาติชาดก ของพระสมณโคดม ก่อนที่มาเป็นชาติสุดท้าย ที่ตรัสรู้ เป็น พระพุทธโคดม

สำหรับ ทศชาติชาดก เป็นการบำเพ็ญเพียร สั่งสมบุญบารมี ๑๐ ชาติ ซึ่งแต่ละชาติ จะบำเพ็ญเพียรบุญ ที่แตกต่างกัน ดังนี้
ชาติที่ ๑. เตมีย์ชาดก : บำเพ็ญเนกขัมมบารมี
ชาติที่ ๒. ชนกชาดก : บำเพ็ญวิริยบารมี
ชาติที่ ๓. สุวรรณสามชาดก : บำเพ็ญเมตตาบารมี
ชาติที่ ๔. เนมิราชชาดก : บำเพ็ญอธิษฐานบารมี
ชาติที่ ๕. มโหสถชาดก : บำเพ็ญปัญญาบารมี
ชาติที่ ๖. ภูริทัตชาดก : บำเพ็ญศีลบารมี
ชาติที่ ๗. จันทชาดก : บำเพ็ญขันติบารมี
ชาติที่ ๘. นารทชาดก : บำเพ็ญอุเบกขาบารมี
ชาติที่ ๙. วิธุรชาดก : บำเพ็ญสัจจบารมี
ชาติที่ ๑๐.  เวสสันดรชาดก : บำเพ็ญทานบารมี

ส่วนจิตรกรรมฝาผนังด้านหลังองค์พระประธาน จะเขียนแสดงถึงช่วงที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้

หน้าต่างโบสถ์
เมื่อออกมาจากโบสถ์ เดินรอบๆ บริเวณวัด  พบว่า ด้านหน้าวัด มี พระพุทธรูปปูนปั้นองค์ใหญ่ ประดิษฐานอยู่ หันพระพักตร์ ไปที่คลองขุนพิทักษ์ 


พระปูนปั้น ด้านหน้าขององค์พระ เป็นคลองขุนพิทักษ์

สำหรับการปฎิบัติธรรมบวชเนกขัมมจาริณี หรือเนกขัมมนารี หมายถึง การบวชของสตรีที่นุ่งขาวห่มขาว ไม่โกนคิ้ว    ไม่โกนผม สมนาทานและรักษาศีล ๘ ซึ่งต่างกับการบวชชี คือ จะเป็นการบวชของสตรีที่นุ่งขาวห่มขาว โกนคิ้ว โกนผม สมนาทานและรักษาศีล ๘


หลังจาก อิ่มอกอิ่มใจ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ก็ถึงเวลาเดินทางต่อ 

พิกัด GPS :  13.510819, 99.981955

แผนที่  




กรณีเดินทางจากกรุงเทพ
สำหรับท่านที่ใช้เส้นทางผ่านสมุทรสาคร, สมุทรสงคราม (๖๙ กิโลเมตร)
๑.  สำหรับผู้ที่ขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานคร ลงที่ปลายทาง พระราม๒, สมุทรสาคร  หรือหากผู้ที่อยู่บริเวณ นั้น ก็สามารถเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข ๓๕ (ถนนพระราม๒)  มุ่งหน้าไป ราชบุรี/นครปฐม (ระยะทาง จากจุดเริ่มต้น ๔๔ กิโลเมตร)
๒. หลังจากผ่านสะพานข้ามคลองสุนัขหอน ให้เลี้ยวซ้าย เพื่อไปลอดใต้สะพาน และเมื่อออกจากสะพาน ก็เลี้ยวซ้าย เพื่อใช้เส้นทางย้อนกลับ (เหมือนกลับกรุงเทพฯ) หลังจากที่เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข ๓๕ หรือถนนพระรามที่ ๒ ให้ขับตรงไป ๒ กิโลเมตร เลี้ยวซ้าย ตรงสถานีไฟฟ้าย่อยแล้วเบี่ยงขวา เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข ๒๐๐๖ 
๓. ตรงไป ๑.๓ กิโลเมตร เลี้ยวซ้าย มุ่งไป ๑๐.๒ กิโลเมตร ขับตามเส้นทางจะเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข ๒๐๐๑  อีก ๑.๘ กิโลเมตร (รวมระยะทางเส้นตรงหลังจากเลี้ยวซ้าย ๑๒ กิโลเมตร) แล้วเลี้ยวขวา ที่สะพานข้ามคลองคันพนัง
๔. ตามเส้นทาง ๑.๒ กิโลเมตร, เลี้ยวซ้าย ๔.๘ กิโลเมตร, เลี้ยวซ้าย ๒.๑ กิโลเมตร จะพบ วัดพิทักษ์เทพาวาส 


ขอบคุณ ครับ   😄